"ปีนี้ ABC คาดผลงานเราจะพลิกกลับมามีกำไร จากปีก่อนผลงานทั้งปีคาดจะขาดทุน เพราะตัวเลข 9 เดือนขาดทุน 21.19 ล้านบาท แน่นอนยังมีเรื่องขาดทุนสะสม เราคาดว่าจะยังล้างไม่หมด แต่ถ้าผลการดำเนินงานดีมาก เราอาจจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายในปีนี้ อย่างไรก็ต้องรอดู"นางกันตพร ทองมั่น กรรมการผู้จัดการ ของ ABC กล่าว
นางกันตพร กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ 800 ล้านบาท โดยจะมีรายได้มาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งมีสัดส่วน 50% โดยในปีนี้บริษัทเตรียมจัดคอนเสิร์ต 5 โชว์ ในช่วงเดือนมี.ค.จำนวน 2 โชว์ เดือนพ.ค.จำนวน 2 โชว์ และโชว์สุดท้ายในช่วงเดือนต.ค. ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต
ธุรกิจสินค้าและบริการ จะมีสัดส่วนรายได้ราว 25% โดยบริษัทได้มีการเจรจากับพันธมิตรญี่ปุ่นเพื่อนำสินค้าแบรนด์เนมมือสองเข้ามาจำหน่ายเบื้องต้นจะสามารถนำสินค้าเข้ามาได้ในช่วงเดือนมี.ค. และจะเริ่มจำหน่ายได้ในช่วงเดือน เม.ย.ซึ่งบริษัทได้เตรียมเงินทุนกว่า 100 ล้านบาทใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อสินค้าดังกล่าว ส่วนที่เหลืออีก 25% จะมาจากกลุ่มค่าบริการสาธารณูปโภคต่างๆ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นเอกสารขออนุญาตต่อธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อนำพอยท์ไปใช้ในการลดหย่อนภาษี โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้ก่อนเดือนมี.ค. หรือก่อนการชำระภาษีของประชาชนที่จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมี.ค.นี้
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดดำเนินการเว็บไซต์อีกครั้ง ในช่วงเดือน เม.ย.นี้ โดยใช้ชื่อเว็บเดิม ABCPOINT.COM ซึ่งทางบริษัท ได้จัดหาทีมงานมืออาชีพมาร่วมทำการปรับปรุงเว็บไซต์ในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับบุคคลที่เข้ามาดูแลเว็บไซต์ ตั้งบริษัทย่อย ชื่อบริษัท เอบีซี อินโนเวชั่น จำกัด มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดย ABC จะถือหุ้น 51% และส่วนที่เหลืออีก 49% คือบุคคลที่เข้ามาดูแลเว็บไซต์ นางกันตพร กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอเว็บไซต์เปิดดำเนินการอีกครั้ง เพื่อให้บริษัทบัตรเครดิตเข้าใจถึงการดำเนินธุรกิจ โดยคาดว่าจะมีบริษัทบัตรเครดิตเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรอีก 3-4 ราย ในช่วงกลางปีนี้ จากปัจจุบันมีพันธมิตรคือ บมจ.บัตรกรุงไทย(KTC) และธ.กรุงเทพ (BBL) สำหรับแผนลงทุนในปีนี้ บริษัทคาดจะใช้ราว 100 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนระบบไอทีราว 50 ล้านบาท และใช้ในการทำการตลาดอีก 50 ล้านบาท ขณะที่ยังเปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์ใหม่ที่สนใจร่วมธุรกิจเข้ามาเจรจากับบริษัท ในรูปแบบการเข้ามาซื้อหุ้นแบบบิ๊กล็อต เพื่อเป็นการกระจายหุ้นรวมถึงเป็นการต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตอย่างยืน นอกจากนี้ยังมองหาโอกาสทางธุรกิจในกลุ่ม AEC โดยมองการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เบื้องต้นสนใจประเทศเวียดนามและฟิลิปปินส์ โดยเน้นกลุ่มคนที่ใช้สื่อออนไลน์ ที่ชอบสะสมพอยท์เป็นหลัก ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในปี 60 หลังจาก ที่บริษัทสามาถขยายธุรกิจในประเทศได้เติบโตและแข็งแรง โดยในปีนี้ และปี 59 จะเป็นช่วงฟอร์มทีมในประเทศให้แข็งแรง ก่อนที่จะบุกต่างประเทศ