ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยทำสถิติยอดขายและกำไรสูงสุดใหม่ต่อเนื่องทุกไตรมาส ส่งผลให้ผลประกอบการในปีนี้โดดเด่นกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 9,293.9 ล้านบาทในปี 56 เป็น 11,284.3 ล้านบาท เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยเป็นผลมาจากปริมาณการขายที่คิดเป็นจำนวนตารางฟุตเพิ่มมากขึ้นถึง 14.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน
"สภาวะตลาดที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้มีความต้องการในสินค้าเพิ่มมากขึ้นทั้งจากลูกค้าเก่าและจากธุรกิจใหม่ ประกอบกับการดำเนินงานที่ดีเกินคาดของเคซีอี เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่มีกำลังการผลิตเป็นครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตรวมของกลุ่ม รวมทั้งเป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในโรงงานทุกแห่งทำให้โรงงานสามารถผลิตสินค้าได้จำนวนมากขึ้น" นายบัญชา กล่าว
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายนั้น มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 26.3% เป็น 31.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุเพราะต้นทุนขายลดต่ำลง และผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งต้นทุนที่ลดลงนั้นเป็นผลโดยตรงจากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น การปรับประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง และอัตราของเสียที่ทรงตัวในระดับต่ำ อีกทั้งราคาวัตถุดิบที่ลดลงก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน
ทางด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับปี 57 นั้น มีสัดส่วนโดยเฉลี่ยที่ 14.9% ของยอดขายรวม หรือเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานที่เพิ่มขึ้นตามผลประกอบการของบริษัท รวมทั้งมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นจากโครงการ ESOP และมีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าของทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้งาน ตลอดจนมีค่าใช้จ่ายก่อนการดำเนินงานของโรงงานใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายพนักงานฝึกงานของฝ่ายปฏิบัติการ โดยคาดว่าโรงงานใหม่จะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในไตรมาสแรกของปี 58
“ปี 57 นับเป็นปีที่เคซีอีสามารถสร้างผลกำไรได้เป็นที่น่าพอใจ โดยมีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 1,827.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 56 ถึงร้อยละ 68.6 ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของรายได้และอัตรากำไรที่สูงขึ้น และชดเชยด้วยค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นจำนวนหนึ่ง"นายบัญชา กล่าว