นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต กล่าวว่า กองทุนดังกล่าวอยู่ภายใต้ชื่อกองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M1AI (TFI6M1AI) อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณ 2.65% ต่อปี โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนเงินฝากธนาคารในจีนและอินโดนีเซีย สัดส่วน 44.00% หุ้นกู้ระยะสั้น ของ Banco BTG PACTUAL สัดส่วน 17.00% หุ้นกู้ระยะสั้นของ Banco Votorantim สัดส่วน 17.00% หุ้นกู้ระยะสั้นของบมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (ASK) 22.00% โดยประมาณค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 0.1490% ลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท การที่บลจ.ธนชาต เปิดขายกองทุนดังกล่าวเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า หลังในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนมาก เพราะปัจจัยต่างประเทศที่ค่อนข้างส่งผลต่อภาพเศรษฐกิจโลกโดยรวม ถือว่าเป็นช่วงที่ท้าทายฝีมือการบริหาร เพราะผู้จัดการกองทุนต้องเลือกหุ้นเป็นรายตัว วิเคราะห์ในเชิงลึกหาหุ้นที่โดดเด่น และปรับตัวให้ทันกับตลาดที่มีความผันแปรไม่หยุดยิ่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับผู้ลงทุน ซึ่งปัจจุบันสินทรัพย์ประเภทหุ้นได้รับความสนใจมากเพราะผลตอบแทนจากตราสารหนี้ค่อนข้างต่ำ แต่ก็ยังมีผู้ลงทุนจำนวนมากที่ยังต้องการลงทุนในตราสารหนี้ นายบุญชัย กล่าวว่า สำหรับกองทุนทริกเกอร์ไทย T-Challenge 11 สามารถทำผลงานได้เข้าเป้าเลิกโครงการ 8% ไปเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยทาง บลจ.ธนชาต จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติเพื่อคืนเงินให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 18 ก.พ.58 และจะนำเงินทั้งหมดที่ได้จากการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายจากกองทุนนี้ไปลงทุนต่อยังกองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน (T-CASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นๆ และเงินฝาก ซึ่งสามารถซื้อ-ขายคืนได้ทุกวันทำการ