นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ TOP กล่าวว่า ในแต่ละปี บริษัทขนาดใหญ่ของโลกกว่า 3,300 แห่ง จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนโดย RobecoSAM โดยแบ่งการประเมินออกเป็น 59 อุตสาหกรรม โดยในแต่ละอุตสาหกรรม บริษัทที่ได้คะแนนสูงสุดจะได้ชื่อว่าเป็น The RobecoSAM Industry Leader ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อการจัดการความยั่งยืน อันเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียในระยะยาว โดยการเปิดรับโอกาสและบริหารจัดการความเสี่ยงให้ได้ดีที่สุดภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
"ปีนี้ RobecoSAM จัดอันดับให้ไทยออยล์เป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลก เนื่องจากมีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนกลยุทธ์ของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีการผลิตที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อม และมีกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนที่แข็งแกร่ง ยิ่งกว่านั้น ไทยออยล์ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน และได้รับความไว้วางใจ รวมทั้งสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนรอบโรงกลั่นได้อย่างเข้มแข็ง"นายอธิคม กล่าว
นายอธิคม กล่าวอีกว่า บริษัทยังได้รับการประเมินว่า มีมาตรการในกระบวนการทำงานที่เป็นเลิศ ดำเนินการผลิตโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 7นอกจากนั้นบริษัทได้มีการทบทวนและพัฒนากระบวนการในด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยอย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศในด้านการดำเนินงาน ( Operational Excellent Management System) ของบริษัท ประกอบกับมีการทดสอบสมรรถภาพและตรวจสุขภาพของพนักงานและผู้รับเหมา ตลอดจนการควบคุมการดำเนินงานอย่างเข้มงวด ซึ่งมีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในด้านความปลอดภัย
สำหรับประเทศไทยมี 3 บริษัทใน 3 อุตสาหกรรม ที่ RobecoSAM จัดอันดับให้เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมนั้นๆ ซึ่งนอกจาก บริษัทจะได้เป็นทีหนึ่งด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลกแล้ว ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น Gold Class ติดต่อกันสองปีซ้อน