บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.บ้านปู(BANPU) ให้ราคาเป้าหมายที่ 33.80 บาท จากปัจจัยหนุนจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งขณะนี้ราคาหุ้นเริ่มสะท้อนประเด็นบวกจากกรณีดังกล่าว แม้ภาวะอุตสาหกรรมถ่านหินยังไม่ฟื้นตัวมาก ขณะที่ล่าสุดราคาถ่านหินฟื้นตัว เนื่องจากเป็นฤดูฝนในอินโดนีเซีย ส่งผลให้การผลิตถ่านหินลดลง
โครงการโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่ง BANPU ถือหุ้น 40% นั้นคาดว่าจะทดสอบระบบภายในไตรมาส 1-2 ปีนี้ จากนั้น unit แรก ขนาด 600 เมกะวัตต์ จะเริ่มเดินเครื่องในช่วงไตรมาส 3/58 ส่วน unit ที่ 2 และ 3 ขนาดละ 600 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในช่วงไตรมาส 4/58 ถึงไตรมาส 1/59 ทั้งนี้ หากโครงการเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว คาดส่วนแบ่งกำไรปี 59-60 ไว้ที่ 2 พันล้านบาท และ 2.2 พันล้านบาท/ปี คิดเป็นมูลค่าส่วนเพิ่มที่ 5.72 บาทต่อหุ้น
ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมถ่านหินจะยังถูกกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาด แต่มองว่าอุปสงค์จากจีนและอินเดียยังทรงตัวในระดับสูง ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีการนำเข้าถ่านหินเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของทุกปี เป็น high season ของราคาถ่านหินในอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นฤดูฝน ทำให้ปริมาณผลิตถ่านหินจากเหมือนแบบเปิดลดลง ทั้งนี้ คาดหวังว่าราคาขายถ่านหินจากเหมืองที่ออสเตรเลียจะฟื้นตัว จากการปรับราคาขายในสัญญา
"คาด catalyst สำคัญหนุนผลประกอบการหลังจากนี้ จะเป็นประเด็นโรงไฟฟ้าหงสา ซึ่งเรามองว่าตลาดและราคาหุ้นเริ่ม priced in ประเด็นนี้ไปบ้างแล้ว แต่ถือว่ายังมี upside อีกพอสมควร"ทรีนีตี้ ระบุ
ทรีนีตี้ ระบุอีกว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/57 มีกำไรสุทธิ 66 ล้านบาท ลดลง 49% จากไตรมาสก่อน และลดลง 90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักจากผลขาดทุน 1 พันล้านบาทจากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันดีเซล และส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP ที่ลดลงราว 650 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานอ่อนตัวเล็กน้อยจากปริมาณและราคาขายถ่านหินที่ลดลง