GLOW แจ้งผลประกอบการปี 57 มีรายได้รวม 73,266 ล้านบาท และมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย(EBITDA) ซึ่งไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน จำนวน 20,898 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 9,139 ล้านบาท และ (NNP) ซึ่งไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน จำนวน 9,668 ล้านบาท โดย EBITDA และ NNP สำหรับปี 57 เพิ่มขึ้น 14.5% และ 20.0% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ส่วนผลประกอบการที่สำคัญสำหรับไตรมาส 4/57 มีรายได้รวม 17,496 ล้านบาท และมี EBITDA ซึ่งไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน จำนวน 4,633 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 1,711 ล้านบาท และ NNP ซึ่งไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน จำนวน 2,018 ล้านบาท
โดย EBITDA และ NNP ของไตรมาส 4/57 ลดลง 4% และ 3% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลประกอบการของไตรมาส 4/57 ได้นับรวมเงินชดเชยการสูญเสียรายได้จากบริษัทประกันของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน จำนวน 297 ล้านบาท
นายเบรนดอน วอเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวว่า ผลประกอบการรวมของปี 57 ที่ได้ประกาศไปนั้น เป็นการตอกย้ำแนวโน้มและทิศทางของผลประกอบการบริษัทที่ได้รายงานในไตรมาสก่อนๆ หน้าตลอดปี 57 ได้เป็นอย่างดี สำหรับธุรกิจโคเจนเนอเรชั่นนั้น ยอดจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำมีการเติบโต 8% และ 4% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งอัตรากำไรจากการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับน่าพึงพอใจอย่างต่อเนื่องทั้งปี
ในด้านธุรกิจไอพีพีนั้น ระดับความพร้อมจ่ายที่ยอดเยี่ยมของโรงไฟฟ้าถ่านหินเก็คโค่-วัน และปริมาณการขายไฟฟ้าที่สูงขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำห้วยเหาะ พาวเวอร์ ในลาว ในปีที่ผ่านมานั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของกำไรเช่นกัน ทั้งนี้กลุ่มบริษัทโกลว์ได้ยึดมั่นในความเป็นเลิศในการบริหารจัดการและสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการลงทุนอย่างมีวินัยมาอย่างต่อเนื่องเสมอมา และเชื่อว่าผลประกอบการของปี 57 สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี