ขณะที่บริษัทยังเดินหน้าขยายกิจการ โดยในปีนี้ตั้งงบลงทุนราว 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อกิจการ 3 แห่งในต่างประเทศ และยังมีงบลงทุน 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเตรียมไว้สำหรับการซื้อกิจการเพิ่มอีก 2 ภายในปี 59-60
นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มธุรกิจ PET และ Feedstock ของ IVL กล่าวว่า การที่กำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นไปตาม EBITDA Margin ที่เพิ่มขึ้น จากการขาดทุนสต็อกผลิตภัณฑ์ลดลงจากปีก่อน จะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งปริมาณการผลิตในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 12-13% ซึ่งจะทำให้ EBITDA ของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นตามมาด้วย
อย่างไรก็ตามในส่วนของรายได้ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตต่ำกว่าปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น 12-13% แม้ว่าราคาน้ำมันที่ ลดลงจะส่งผลในเชิงบวกต่อต้นทุนการผลิต แต่ทำให้ราคาขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทลดลงตามไปด้วย
ขณะที่บริษัทตั้งงบลงทุนในช่วงปี 58-61 ที่ระดับ 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยปีนี้บริษัทจะใช้งบลงทุน 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการเข้าซื้อกิจการ 3 แห่ง ได้แก่ โครงการ Lion ซึ่งแบ่งเป็นโรงงาน Lion 1 คาดว่าจะปิดดีลในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ,โรงงาน Lion 2 ซึ่งคาดว่าจะปิดดีลในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ , โครงการ Boston แห่งใหม่ และโครงการ Swift คาดว่าจะมีการปิดดีลได้ภายในปีนี้
ส่วนเงินที่เหลืออีก 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทเตรียมไว้ใช้สำหรับการซื้อกิจการ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Alphapet 2 คาดว่าจะมีข้อสรุปได้ภายในปี 59 และโครงการ Houston คาดว่าจะมีข้อสรุปในช่วงปี 60-61 ทั้งนี้ หากแผนการ เข้าซื้อกิจการข้างต้นสำเร็จทั้งหมด จะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 1.6 ล้านตัน/ปี และจะทำให้กำลังการผลิต เพิ่มเป็น 9.4 ล้านตัน/ปี จากปัจจุบันที่ 7.8 ล้านตัน/ปี
สำหรับเงินที่ใช้ในการลงทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการนั้นจะมาจากเงินสดของบริษัท ,เงินกู้สถาบันการเงิน และเงินที่ได้จากการออกหุ้นกุ้ด้อยสิทธิ์ ที่มีลักษณะคล้ายทุนที่ได้ทำการออกจำหน่ายไปแล้ว อีกทั้งในปี 59-60 บริษัทจะมีการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดอายุในช่วงปีดังกล่าว โดยวงเงินหุ้นกู้ที่จะออกใหม่มูลค่าไม่เกิน 2.5 หมื่นล้านบาท