พร้อมทั้งเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทที่จะปลดระวางเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 จำนวน 8 ลำในเดือน มิ.ย.โดยจะเริ่มขายในไตรมาส 4/58 และจะปลดระวางเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 จำนวน 4 ลำในปี 59
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะรับมอบเครื่องบินใหม่ 6 ลำในปีนี้ ได้แก่ โบอิ้ง 777 จำนวน 2 ลำ ซึ่งรับมอบไปแล้ว เครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนวน 2 ลำและแอร์บัส 320 จำนวน 2 ลำ จะทำให้สิ้นปี 58 การบินไทยจะมีฝูงบินทั้งหมด 77 ลำและที่สำคัญอายุเครื่องบินน้อยลงมาที่เฉลี่ย 7.8 ปี โดยคาดว่าจะปรับลดประเภทเครื่องบินเหลือ 6 แบบในปีหน้า จาก 8 แบบในปีนี้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนลงประมาณ 6%
นายจรัมพร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะขายเครื่องบินที่ปลดระวางจำนวน 42 ลำ โดย 20 ลำที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการในปีที่ผ่านมาคาดว่าจะขายได้แล้วเสร็จภายในกลางปีนี้ และอีกจำนวน 22 ลำคาดจะขายแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ ทั้งนี้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเป็นโอกาสดีในการขายสินทรัพย์.
"ผลการดำเนินงานปีนี้จะดีแค่ไหน ไม่ได้มาจากการดำเนินงาน แต่จะมาจากการขายทรัพย์สินเป็นหลัก"นายจรัมพร กล่าว
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า บริษัทได้ปรับลดประมาณการรายได้ปี 58 มาที่ 1.7 แสนล้านบาท จากประมาณการเดิมที่ 1.85 แสนล้านบาท หลังจากการปรับลดกำลังการผลิตหรือจำนวนที่นั่งลงประมาณ 20% หรือปรับลดเส้นทางไปกว่า 20 เส้นทาง แต่คาดว่าปีนี้จะขาดทุนจากการดำเนินงานน้อยลง ไม่รวมรายการพิเศษที่คาดว่าจะมีการบันทึกการด้อยค่าของเครื่องบิน
ทั้งนี้ ในตารางฤดูร้อนยกเลิกกว่า 10 เส้นทางหรือคิดเป็นประมาณ 9.7% เส้นทางที่ขาดทุนหนักได้แก่ กรุงเทพ-มอสโควจะยกเลิกบินในวันที่ 29 มี.ค.นี้ เพราะตั้งแต่เริ่มบินในปี 48 จนถึงปัจจุบันรวม 9 ปี ขาดทุนเฉลี่ยปีละ 200-300 ล้านบาท และจะยกเลิกบินกรุงเทพ-มาดริดในวันที่ 9 ก.ย.นี้. ซึ่งขาดทุนหลักร้อยล้านบาทเช่นกัน และได้ปิดเส้นทางกรุงเทพ-โจฮันเนสเบิร์กเมื่อ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว
ส่วนตารางบินในฤดูหนาวที่จะเริ่มในวันที่ 29 ต.ค. 58 จะยกเลิกเส้นทางบิน 10 เส้นทางหรือคิดเป็นประมาณ 10%
นอกจากนี้ ปรับลดเที่ยวบินเส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน. กรุงเทพ-แฟรงเฟิร์ต 1 เที่ยวบินในช่วงกลางวัน และเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน กรุงเทพ-แฟรงเฟิร์ต และกรุงเทพ-ปารีสโดยใช้เครื่องบินแอร์บัสเอ 340 แทนเริ่ม 1 ก.ค.58