"เน้นว่าหากมาซื้อสินค้าที่ DEEDEE ราคาต้องถูกกว่าที่อื่นแต่จำนวนแบรนด์สินค้าอาจมีอย่างจำกัด เพราะเรามีรูปแบบเฉพาะเพื่อคู่ค้าที่จำหน่ายสินค้าให้เราราคาพิเศษ เพื่อให้เราเป็น Low cost Supermarket ที่แตกต่างไม่เหมือน ใคร เชื่อว่าร้านค้ารูปแบบนี้จะประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะโมเดล ธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในต่างประเทศ" นายประจวบ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ดีดี ธัญการย์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ทุนชำระแล้ว 250 ล้านบาท โดย ดีดี ธัญการย์ ประกอบธุรกิจ Discount Supermarket ที่ เชื่อถือได้ในด้านคุณภาพและราคา ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าอุปโภค บริโภค ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน จำหน่ายสินคาดีราคาถูก ซึ่งเทียบกับ Low Cost Airline โดยจะเปิด สาขาแรกในไตรมาส 2 ปี 2558 แ ละมีแผนการขยายสาขาจำนวน 14 สาขา ในปีนี้ และคาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า บริษัท ดีดี ธัญการย์ จะมีสาขารวม 142 สาขา กระจายทั่วประเทศ
นอกจากนั้น เช้าวันนี้บริษัทยังรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติงดจ่ายปันผลพร้อมกับมีมติให้ลดทุนจดทะเบียน จาก เดิม 1,159,998,983 บาท เหลือ 1,024,998,983 บาท โดยยกเลิกหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่ายจำนวน 135,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท และมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 1,345,166,667 หุ้น เป็น 2,370,165,650 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 482,500,000 หุ้น เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม(RO)อัตรา 2 ต่อ 1 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท และเพื่อรองรับการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นสามัญ เพิ่ม ทุน และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (private placement) จำนวน 500 ล้าน หุ้น โดยบริษัทจะกำหนดราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด (หรือมี ส่วนลดไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของ ราคา ตลาด)
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์)ของบริษัทชุดที่ 2 (TH – W2) จำนวน 321,666,667 หน่วย เพื่อเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า บริษัทจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 321,666,667 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของ TH-W2 รวมทั้งจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 41,000,000 หุ้นรองรับการปรับสิทธิของ TH-W1
ส่วนผลประกอบการงวดปี 57 มีกำไรสุทธิ 21.10 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.0308 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุน 20.86 ล้านบาท ซึ่งมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 41.96 หรือ เพิ่มขึ้นกว่า 200%
สาเหตุหลักที่กำไรเปลี่ยนแปลงกว่า 200% มาจากกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย คือ บริษัท มิลล์เลี่ยน ไมล์ส จำกัด (MM) และ ราย ได้ค่าเสียโอกาสจากเงินมัดจำซื้อเงินลงทุนในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ขณะที่ปี 57 มีรายได้รวม 170.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 133.41 ล้านบาทคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 28.16%