ส่วนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในอินโดนีเซีย ที่จะร่วมทุนกับเปอร์ตามิน่า คาดว่ามีมูลค่าลงทุนราว 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยขณะนี้บริษัทได้ยื่นข้อเสนอเพื่อเจรจาร่วมกันอีกครั้ง หลังจากที่ทางกลุ่มเปอร์ตามิน่าได้เลือกซาอุดิอารามโก้มาเป็นพันธมิตรในการสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งทำให้มีแนฟทาเหลือมากพอที่จะรองรับการทำปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ได้ จึงเห็นว่าควรจะร่วมกันดำเนินการทั้งสามฝ่าย ซึ่งจะทำให้ Feed Stock ถูกลง คาดว่าจะใช้ระยะเวลาการตัดสินใจร่วมกัน 3-4 เดือน และคาดว่าจะสามารถตัดสินลงทุนในโครงการดังกล่าวที่ชัดเจนได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 59
ทั้งนี้ ปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ดังกล่าวจะมีการสร้างโรงโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง กำลังการผลิตรวม 1.5 ล้านตัน/ปี
ในส่วนของการคาดการณ์ราคาน้ำมัน บริษัทคาดว่าราคาน้ำมันดิบในครึ่งหลังปีนี้จะมีการปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 64 เหรียญ/บาร์เรล จากในช่วงต้นปีที่ 40-50 เหรียญ/บาร์เรล โดยสาเหตุที่ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นในช่วงปีหลังนั้นมาจากในช่วงปลายไตรมาส 3 - ไตรมาส 4 บางประเทศในโซนตะวันออกกลางเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบลดลง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาน้ำมันจะมีการทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น