และมีการเติมคอนเทนต์ใหม่ออกอากาศเพิ่มมากถึง 15 ชั่วโมงต่อวัน จากปีก่อน 12 ชั่วโมงต่อวัน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ได้แก่ ละครใหม่แกะกล่อง 12 เรื่องต่อปี จากปีก่อน 5 เรื่องต่อปี ซึ่งล่าสุดกำลังประสบความสำเร็จตามคาดกับการออกอากาศละครทั้ง 2 เรื่อง คือ แม้เลือกเกิดได้และแหวนทองเหลือง จึงมั่นใจว่าจะขยับสู่อันดับ 3 ของประเทศก่อนสิ้นปีนี้ และมีอัตราการใช้พื้นที่สื่อโฆษณา (Utilization Rate) จะสูงถึง 70% ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงปลายปี 57 บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงใหม่ คือ มองเพลงเป็นคอนเทนต์ต้นน้ำที่สามารถต่อยอดสร้างรายได้ให้ธุรกิจสื่อทั้งสบายดีทีวี, ยู แชนแนล รวมถึงคลื่นวิทยุคูล ฟาเรนไฮต์ 93 (COOL Fahrenheit 93) และสบายดี เรดิโอ 88.5 ที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วยิ่งมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอีก ซึ่งหลังปรับแล้วพบว่าช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็นทิศทางดีถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว จึงคาดว่าจะเห็นผลการดำเนินงานชัดเจนในปีนี้
ส่วนผลประกอบการปี 57 บริษัทมีรายได้รวม 4,306.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน นับเป็นตัวเลขรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมากว่า 30 ปี ขณะที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 371 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสะท้อนสถานภาพทางการเงินของอาร์เอสมีความแข็งแกร่ง คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติการจ่ายปันผลอีก 18 สตางค์ต่อหุ้น สูงกว่าที่จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 12 สตางค์ต่อหุ้น รวมปีนี้จ่ายปันผลทั้งสิ้น 30 สตางค์ต่อหุ้น โดยเตรียมนำเสนอมติดังกล่าวเข้าที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ในวันที่ 22 เมษายนนี้
ทั้งนี้ รายได้รวมมาจาก 3 ธุรกิจด้วยกัน ได้แก่ ธุรกิจสื่อเท่ากับ 3,356.8 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 78.7%, ธุรกิจเพลงเท่ากับ 457.8 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10.6% และธุรกิจอีเวนต์เท่ากับ 234 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10.7%
รายได้ธุรกิจสื่อหลักๆ มาจากผลการดำเนินงานของสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่เริ่มออกอากาศเป็นดิจิตอลทีวีอย่างเป็นทางการตั้งแต่ไตรมาส 2/57 เป็นต้นมา ส่งผลให้มีอัตราการใช้พื้นที่สื่อโฆษณา (Utilization Rate) สูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะเดียวกันมีการปรับขึ้นค่าโฆษณาต่อเนื่องตลอดปี โดยรายการที่ได้รับความนิยมสูงในปี 57 ได้แก่ รายการเสียงสวรรค์พิชิตฝัน และละครใหม่แกะกล่องทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสาปสาง, ดงดอกงิ้ว, ผัวชั่วคราว, ชิงรักหักสวาท และเมียเถื่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานของช่อง 2, สบายดีทีวี และยู แชนแนล (You Channel) เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากมีเรตติ้งสูงกว่าดิจิตอลทีวีบางช่องแถมยังติดอันดับ 1 ของกลุ่มแซทเทลไลท์ทีวีในแต่ละประเภทด้วย
สำหรับรายได้ธุรกิจเพลงจากการขายซีดีและ MP3 ลดลงตามตลาดเพลงทั่วโลกที่หดตัว แต่บริษัทฯ มีส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเปิดให้รับชมคอนเทนต์ผ่านช่องทางยูทูบ (Youtube) ซึ่งมีแนวโน้มจำนวนผู้ชมเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนรายได้ธุรกิจอีเวนต์แม้จะลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้มีการจัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมทางการตลาดน้อยลง แต่เมื่อโฟกัสในแต่ละงานที่จัดขึ้นล้วนประสบความสำเร็จดีเกินคาด ได้แก่ คิดถึง ดีทูบี คอนเสิร์ต 2014 (คิดถึง D2B Concert 2014), กามิกาเซ่ แดนซ์เนรมิต คอนเสิร์ต 2014 (Kamimaze แดนซ์เนรมิต Concert 2014), คอนเสิร์ตคนใต้หัวใจเสือ, สบายดีสัญจรปี 57, สบายดี โรดโชว์ (สบายดี Road Show) และสคูล มิวสิค เลิฟเว่อร์ (School Music Lover)