(เพิ่มเติม) TSTH คาดทั้งปียังขาดทุน แม้ Q4/57-58 ดีกว่า Q3/57-58,มั่นใจพลิกกำไรงวดปี 58-59

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 25, 2015 16:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายราจิฟ มังกัล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) (TSTH) คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 4 งวดปี 57-58 (ม.ค.-มี.ค.58) จะดีกว่าในไตรมาส 3 งวดปี 57/58 ทั้งปริมาณขายที่ทำได้ดีกว่าไตรมาส 3 ที่มีปริมาณขาย2.6 แสนตัน และส่วนต่างราคา(สเปรด)ดีขึ้นมากกว่า 7,500 บาท/ตัน จากไตรมาส 3 สเปรดอยู่ที่ 7,300-7,500 บาท/ตัน

ทั้งนี้ คาดว่างวดปี 57/58 (เม.ย.57-มี.ค.58) จะมีผลขาดทุน จากงวดปีก่อนมีกำไร 30.79 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนงวดปี 57/58 ขาดทุน 252 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 3 งวดปี 57/58 มีผลขาดทุนถึง 183 ล้านบาท ส่วนยอดขายทั้งปีคาดว่าจะได้ตามเป้าหมายที่ 1.1-1.2 ล้านตัน

"เราเชื่อว่าไตรมาส 4 ดีกว่าไตรมาส 3 ถ้าดูตัวเลขทั้งปี ขาดทุนไปแล้ว 3 ไตรมาสเราคาดหวังว่าขาดทุนลดลง แต่ผลประกอบการไตรมาสเดียวคงไม่ช่วยให้ทั้งปีกลับมามีกำไรได้ แต่เชื่อว่าราคาขายลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้วราคาจะค่อยๆทยอยปรับขึ้นสเปรดก็น่าจะดีกว่า"นายมังกัล กล่าว

ในไตรมาส 4 งวดปี 57-58 คาดว่าราคาขายจะค่อยๆปรับตัวขึ้นหลังจากที่ลงมาเกือบจุดต่ำสุดต่อเนื่องมา 6 ไตรมาส และกระทรวงพาณิชย์เริ่มการไต่สวนการทุ่มตลาดเหล็กคาร์บอนต่ำจากจีนเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้ยอดขายเหล็กลวดคาร์บอนต่ำฟื้นกลับมามียอดขายราว 1 หมื่นตัน/เดือน จากปัจจุบันมียอดขายเพียง 6 พันตัน/เดือน

นอกจากนี้ บริษัทได้ชำระหนี้คืนไป 1.6 พันล้นบาท ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยไป 40 ล้านบาท/ปี ยังคงเหลือหนี้จากสถาบันการเงินประมาณ 1 พันล้านบาท

กรรมการผู้จัดการใหญ่ TSTH กล่าวว่า ในงวดปี 58/59 (เม.ย.58-มี.ค.59) บริษัทมั่นใจจะกลับมามีกำไร เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจเหล็กภาพรวมเป็นไปในเชิงบวก ความต้องการเหล็กในประเทศคาดว่าจะเติบโต 5% มาที่ 18.2 ล้านตัน จากปีก่อนเติบโตลดลง 3.5% ที่ 17.3 ล้านตัน (ตัวเลขจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย) โดยมาจากการเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ขณะที่รัฐบาลจีนยกเลิกสิทธิประโยชน์การส่งออกทำให้การนำเข้าจากจีนน้อยลง

ขณะเดียวกัน TSTH จะเน้นผลิตและขายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มที่มีมาร์จิ้นสูง ได้แก่ เหล็กเส้น เกรด SD50 , เหล็กเส้นขึ้นรูปตัดและดัด (Cut & Bend) และ เหล็กต้านทานแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว และคาดว่าในช่วง 2-3 ปีนี้สัดส่วนเหล็กที่มีมูลค่าเพิ่มจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยวางเป้ายอดขายเหล็กเส้น SD50 จะมีสัดส่วน 40-50%จากไตรมาส 3 นี้มีสัดส่วน 15% ซึ่งบริษัทมีกำลังการผลิตรองรับไว้แล้ว โดยได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และสถาปนิกผู้ออกแบบบ้านและอาคารมากขึ้น ส่วน เหล็กต้านทานแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว ที่ใช้กันมากในเชียงใหม่และเชียงราย คาดว่าภายใน 2 ปีจะมียอดขายเพิ่มมาเป็น 12,000 ตัน/ไตรมาส จากปัจจุบันมียอดขาย 2,000 ตัน/ไตรมาส

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/57-58 ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ประเภทมียอดขาย 37,000 ตัน หรือ 14%ของยอดขายรวม 2.6 แสนตัน โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนยอดขายเหล็กเส้น 60-70% ของยอดขายรวม

นอกจากนี้ ในเดือนพ.ค.58 บริษัทจะยื่นขอให้กระทรวงพาณิชย์ทบทวนการเพิ่มเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กลวดคาร์บอนสูง ที่ได้จัดเก็บไป 5% เพราะอัตราดังกล่าวยังไม่ช่วยผู้ประกอบการได้มากนัก เทียบกับช่วงที่กระทรวงพาณิชย์เก็บภาษีชั่วคราวที่ 16% ซึ่งได้ผลที่ทำให้จีนหยุดการนำเข้ามาไทย

ส่วนการขายโครงการเตาถลุง Mino Blast Furnace (MBF) นั้น นายมังกัล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปในเดือนมี.ค. 58 และยังไม่รู้เมื่อไรจะสรุปการขายได้ เพราะธุรกิจเหล็กที่ผ่านมาราคาขายไม่ดี แร่เหล็กราคาอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม ยืนยันยังคงขายออกไป


แท็ก ทาทา สตีล   (TSTH)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ