ทั้งนี้ บริษัทจะเป็นฝ่ายลงทุนเปิดร้านข้าวขาหมูยูนานให้ครบ 35 สาขาในประเทศไทย จากปัจจุบันที่มีอยู่ 22 สาขา ทั้งนี้ ไม่รวมอีก 2 สาขาซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้วที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตั้งแต่เดือน พ.ย.57 ที่ผ่านมา โดยมีแผนเปิดแฟรน์ไชส์ในไตรมาส 3/58 ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังจะขยายช่องทางการจัดจำหน่าย‘ขาหมูยูนนาน’ไปในช่องทางขายร้านซูปเปอร์มาร์เก็ตในรูปแบบขาหมูแช่แข็งตรายูนนาน โดยเริ่มจากกลุ่มท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ตในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา
ส่วนร้านอาหารไทยอีสาน ‘แซบ เอ็กซ์เพรส’นั้น มีแนวคิดปรับโมเดลการขยายสาขาแบบ Mobile Unit ที่ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานภายในร้านและยังรองรับการขยายสาขาผ่านรูปแบบแฟรน์ไชส์ควบคู่กับโครงการขยายสาขาของร้านขายข้าวขาหมูตรายูนนาน
“จากแผนดำเนินธุรกิจทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงานในปี 58 ของ ส.ขอนแก่น ที่ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 15%" นายเจริญ กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานปี 57 บริษัทฯ มีรายได้ 2,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 2,019 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท หลังประสบความสำเร็จด้านการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปกลุ่มลูกชิ้นปลา อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานและร้านอาหารบริการด่วนที่ทำยอดขายเติบโตได้ดี ประกอบกับบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อหมูได้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยฉุดต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง แม้ที่ผ่านมาต้นทุนวัตถุดิบจำพวกเนื้อหมูจะปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
“ปี 57 เป็นปีที่เราประสบความสำเร็จสูงสุดในด้านผลการดำเนินงานที่ยังรักษาอัตราการเติบโตได้ดีจากสินค้าเดิมและสินค้าใหม่ แม้ว่าจะมีปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่เรายังสามารถทำผลงานทางด้านยอดขายเติบโตได้ดี โดยมาจากการขยายตัวด้านยอดขายของธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปกลุ่มลูกชิ้นปลา ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน และธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ก็มีอัตราการเติบโตที่ดี" นายเจริญ กล่าว