"ในปี 58 เป็น Gap Year ของบริษัท จากการที่เงินลงทุนจาก IPO ยังไม่ได้สร้างผลตอบแทนอย่างเต็มที่ จนกระทั่งปีหน้าบริษัทถึงจะสามารถรับรู้รายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 59 เป็นต้นไป จากโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายและเริ่มโอน"นายชานนท์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 2.08 หมื่นล้านบาท โดยมาจากการเปิดโครงการใหม่ขายมากขึ้น ซึ่งมีแผนเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่ารวม 3.15 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยโครการคอนโดมิเนียม 9 โครงการ และโครงการแนวราบ 3 โครงการ โดยแบ่งการเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 1-2/58 จำนวน 7 มูลค่ารวม 1.7 หมื่นล้านบาท และส่วนโครงการที่เหลือจะทยอยเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง
"ในปัจจุบันลูกค้าของบริษัทยังไม่มีผลกระทบทางการเงินจากการชะลอตัวเศรษฐกิจแต่อย่างใด โดยมีกลุ่มลูกค้า 25-35% ใช้เงินสดทั้งหมดในการซื้อ ขณะที่อัตราส่วนลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินอยู่ในระดับไม่เกิน 6%"นายชานนท์กล่าว
นายชานนท์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 12% เท่ากับปีก่อน แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นอาจจะลดลงมาอยู่ที่ 34% จากปีก่อนอยู่ที่ 38% ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการแนวราบเข้ามามากขึ้น เพราะโครงการแนวราบให้อัตรากำไร(มาร์จิ้น)ต่ำกว่าคอนโดมิเนียม โดยสัดส่วนรายได้จากโครการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบของบริษัทอยู่ที่ 80:20
บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินในปีนี้ที่ 4.15 พันล้านบาท น้อยกว่าปีก่อนที่ใช้ไป 1.02 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปีก่อนซื้อที่ดินไปถึงทั้งหมด 18 แปลงค่อนข้างมากแล้ว ทำให้บริษัทมีที่ดินในมือรองรับโครงการส่วนใหญ่ที่อยู่ในแผนงานแล้ว เพื่อผลักดันการเติบโตของรายได้ที่ตั้งเป้าแตะ 3.5 หมื่นล้านบาทภายในปี 62 โดยเงินที่นำมาใช้ในการลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทในปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 2.4 พันล้านบาท รวมถึงการออกหุ้นกู้ และการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน
"เราตั้งเป้ารายได้จะแตะ 3.5 หมื่นล้านบาท ในปี 62 โดยที่ดินในมือส่วนใหญ่ในตอนนี้มีเพียงพอที่จะรองรับการเติบโตของรายได้ และเราเน้นการสร้างฐานลูกค้าเดิม ที่เราเรียกว่า AMC ที่สามารถช่วยในการเติบโตของบริษัทได้เป็นอย่างดี จากนี้ไปเราก็มุ่งมั่นพัฒนาโครงการให้มีความน่าสนใจ เพื่อสร้างยอดขายและสร้างรายได้ให้กับบริษัทให้เป็นไปตามที่ตั้งไว้ หลังจากปีที่แล้วบริษัทมีรายได้รวมแตะ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว และมีกำไรสุทธิในปีที่แล้วทำสถิติสูงสุดที่ 1.3 พันล้านบาท"นายชานนท์ กล่าว
นายชานนท์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 เมษายน 58 เพื่อออกหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงินรวม 1.2 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มทยอยออกหุ้นชุดใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป ซึ่งอายุหุ้นกู้ชุดใหม่จะมีอายุ 3-5 ปี วัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ในการซื้อที่ดินและการพัฒนาโครงการในอนาคต