ขณะเดียวกันในปีนี้ DRT จะรุกตลาดครั้งใหญ่ เนื่องในโอกาสการดำเนินธุรกิจครบรอบ 30 ปี โดยชูจุดแข็งด้านเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่าย และออกผลิตภัณฑ์กลุ่มไม้สังเคราะห์เพิ่มเติม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์รองรับความต้องการของผู้บริโภค ผู้รับเหมาก่อสร้างและกลุ่มลูกค้าโครงการ พร้อมเร่งสื่อสารการตลาดเพื่อตอกย้ำแบรนด์ ‘ตราเพชร’ ไปยังกลุ่มลูกค้าอีกด้วย
"บริษัทฯ คาดว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่จะใช้ศักยภาพของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่งทั้งความพร้อมของสินค้า กำลังการผลิตและเครือข่ายช่องทางการขายเพื่อรองรับความต้องการซื้อสินค้าและผลักดันยอดขายของ DRT ในปีนี้ให้เพิ่มขึ้นราว 5% ได้" นายสาธิต กล่าว
ด้านนายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV ซึ่งเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทยและมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี ส่วนตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศ บริษัทฯ มองว่า จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น หลังภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและตลาดวัสดุก่อสร้างที่มีการแข่งขันทางด้านราคา การมุ่งเน้นลดต้นทุนการผลิตจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งบริษัทฯ มีเป้าหมายลดต้นทุนด้านวัตถุดิบ ด้านการใช้พลังงานและ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและด้านขนส่งให้ดีขึ้น เพื่อรองรับแผนการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนผลการดำเนินงานของ DRT ในรอบปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้ 4,227.89 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ผ่านมาที่มีรายได้ 4,401.84 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 289.29 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 450.92 ล้านบาท หลังกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรง นอกจากนี้ ยังมีภาระด้านค่าเสื่อมและดอกเบี้ยจ่ายจากสายการผลิตใหม่
“ในปี 2557 แม้ DRT จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อกำลังซื้อภายในประเทศลดลง ส่งผลต่อช่องทางขายผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยและห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ที่ทำยอดขายลดลง แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าโครงการและลูกค้าตลาดต่างประเทศ เรามีความสามารถในการแข่งขันที่ดีมาก โดยทำอัตราการเติบโตของยอดขายได้มากกว่า 10%" นายอัศนี กล่าว