ทั้งนี้ บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการเป็นผู้ประการการค้าปลีก-ค้าส่งของไทยรายแรกที่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อความเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งต้องการะดมทุนไปใช้ขยายสาขาเพิ่มเติมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นางอมร กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทมีร้านสาขาของธนพิริยะอยู่ 10 สาขาใน 6 อำเภอของจังหวัดเชียงราย ซึ่งขณะนี้มีแผนจะขยายให้ครบทั้ง 18 อำเภอ โดยในปีนี้ตั้งงบลงทุนราว 30 ล้านบาทที่มาจากกระแสเงินสดของบริษัทเพื่อขยายสาขาเพิ่ม 2 สาขา นอกจากนั้นในอนาคตจะขยายสาขาไปยังจังหวัดใกล้เคียงทั้งเชียงใหม่และพะเยา รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับเชียงรายทั้งพม่าและลาว
"เราจะเป็นสิงห์เหนือที่เรามีแผนที่จะครอบคุมภาคเหนือทั้งหมด และยังมีแผนที่จะขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วยทั้งพม่าและลาวที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ติดอยู่กับจังหวัดเชียงราย แต่ระยะอันสั้นนี้เรามองที่จะขยายสาขาให้คลอบคลุมจังหวัดเชียงราย ต่อจากนั้นคือการขยายไปยังพะเยาและเชียงใหม่"นางอมร กล่าว
ในปี 58 บริษัทตั้งเป้ารายได้ราว 1.5 พันล้านบาท จากปี 57 ที่มีรายได้ราว 1.2 พันล้านบาท และมีกำไร 46 ล้านบาท โดยบริษัทมีจุดแข็งที่สำคัญคือการให้ส่วนลดแก่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าในปริมาณมาก ๆ หรือซื้อยกล็อต ซึ่งแตกต่างจากร้านค้าปลีกทั่วไป และมีความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าเมื่อเทียบกับห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่
"เรามั่นใจว่าเราสามารถสู้กับร้านค้าปรีกอื่นๆได้ค่อนข้างดี เพราะเรามีสินค้าในร้านของเรามากกว่า 14,000 SKU และเราค้นพบสูตรสำเร็จในการเป็นผู้ประกอบการที่สามารถสู้กับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ได้ คือเราเป็นทั้งผู้ที่จำหน่านสินค้าขายปลีกและส่งเป็นกล่องๆ เราจึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค"นางอมร กล่าว