"แนวโน้มปีนี้เราก็ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3-5% สินเชื่อเดือนมกราคมที่ลดลงเป็นไปตามปกติที่หลังจากช่วงปีใหม่คนยังไม่มีการใช้จ่าย เราจะดูตัวเลขเดือนเดียวไม่ได้...แนวโน้มทั้งปียังเติบโตได้เข้าใจว่าซีกรัฐบาลก็เริ่มขับเคลื่อนออกมาเป็นระบบ ภาคเอกชนก็จะตามมา"นายโฆสิต กล่าว
นายโฆสิต กล่าวถึงการที่ธนาคารกลางจีนลดดอกเบี้ยว่า ทางการจีนคงจะตอบสนองต่อสถานการณ์ของประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่มีผลกระทบต่อไทย ขณะที่การใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ที่หลายประเทศมีออกมานั้น ทำให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุน แต่การพิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ยของไทยคงพิจารณาถึงสภาพคล่องของระบบเป็นหลัก เพราะหากมีสภาพคล่องสูงและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำก็อาจจะเป็นความเสี่ยงด้านการลงทุนที่ไม่มีความระมัดระวัง รวมถึงติดตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยของทางสหรัฐด้วย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของโลก