"เราตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 10% ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากต้นปีที่ผ่านมายอดขายมีการปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปีก่อนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองอย่างหนัก ส่งผลทำให้ยอดขายลดลงไปพอสมควร โดยเราก็จะมีการออกผลิตภัณฑ์ๆ เพิ่มเติม ซึ่งยังเน้นสินค้าที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพหลังลูกค้าให้การตอบรับมากขึ้น"นายปัญญา กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯมีการขยายตลาดเข้าไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน (AEC) เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีการส่งออกไปแล้วกว่า 25 ประเทศทั่วโลก โดยปีนี้จะเน้นการทำตลาดในประเทศ CLMV หลังที่ผ่านมาได้มีการนำสินค้าไปวางจำหน่ายในประเทศดังกล่าวบ้างแล้วภายใต้แบรนด์ MALEE ซึ่งมีมาร์จิ้นดีกว่าการรับจ้างผลิต อย่างไรก็ตามบริษัทฯมีสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศ 20% และในประเทศ 80%
ขณะที่บริษัทมีแผนเพิ่มมูลค่าทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) จากปัจจุบันอยู่ที่ 22% ในผลิตภัณฑ์สินค้าระดับพรีเมียม ปัจจุบันมีการใช้กำลังการผลิตโดยรวมอยู่ที่ 50% หรือ 300 ล้านลิตรต่อปี จึงยังมีความสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกมาก ซึ่งบริษัทฯจะมีการเพิ่มสินค้าแบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่าง ในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นนักศึกษาและกลุ่มคนทำงาน คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ อีกทั้งบริษัทฯได้วางงบลงทุนปีนี้ไว้จำนวน 100-200 ล้านบาท จะนำไปใช้ในเรื่องของบำรุงรักษาเครื่องจักร
สำหรับกรณีที่คณะกรรมการบริษัทฯมีมติพิจารณาอนุมัติกำหนดการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนจำนวน 2,021,100 หุ้น คิดเป็น 1.44% ในระยะเวลา 1 ปีนั้น จะเป็นการขายหุ้นดังกล่าวทั้งหมดในกระดานการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทพยายามที่จะไม่นำไปลดทุนจดทะเบียน รวมถึงยังไม่แผนที่จะซื้อกิจการของบริษัทอื่นๆ