"2 เดือนแรกยอดขาย soft ลง ถ้ากำลังซื้อเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆก็กังวล ถ้าซึมลึก ซึมยาวบริษัทต้องนึกแผนและปรับกลยุทธ์ แต่ถ้าเบาลงแค่ 2-3 เดือนก็ไม่เป็นไป เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา การจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าคิดเยอะขึ้น" นายณัฏฐ์ กล่าว
ล่าสุด HMPRO ทุ่มงบประมาณกว่า 120 ล้านบาทจัดงาน “HomePro EXPO ครั้งที่ 21"เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 1/58 โดยระดมพลขนนวัตกรรมสินค้าเกี่ยวกับบ้านที่ใหญ่ที่สุดกับคู่ค้ากว่า 300 ราย กระหน่ำลดราคาสูงสุด 80% พร้อมช้อปสินค้าครบคุ้มแบบสุด ๆ และสมาชิกบัตรโฮมการ์ด รับคะแนนทุกการช้อป และคะแนนแลกรับส่วนลด+รับเพิ่ม 33% ทันที พร้อมกิจกรรมจากเหล่าดารา และของแจกอีกมากมาย อาทิ รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าฟีโน่ ซัมซุง, Galaxy Note Edge, ซัมซุงแอลอีดี ทีวี ระหว่างวันที่ 13-22 มี.ค.58 ณ ฮอลล์ 5-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายจากงานนี้ราว 650 ล้านบาท ใกล้เคียงกับทุกปีที่ผ่านมา โดยเป็นลูกค้าเดิม 80% และ 20% เป็นลูกค้าใหม่
"ภาพรวมกำลังซื้อในต่างจังหวัดตอนนี้เบาลง เนื่องจากเราอยู่ในภาคเกษตร ยางพารา การส่งออก และปาล์ม กระทบ โดยเฉพาะภาคอีสาน แต่เมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา ยังดีอยู่ ประกอบกับ โครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ตามหัวเมืองใหญ่จะส่งมอบห้อง ก็จะมีการจับจ่ายใช้สอยสินค้า ซึ่งตรงนี้ก็ช่วยหนุนยอดขาย"นายณัฏฐ์ กล่าว
นายณัฎฐ์ กล่าวว่า ยอดขายของบริษัทในปีนี้จะเติบโตจากทั้งสาขาเดิม และมีแผนเปิดสาขาใหม่ 8 สาขา ใช้งบลงทุนราว 300-500 ล้านบาท/สาขา ซึ่งปีนี้จะเป็นปีแรกที่บริษัทเปิดสาขาที่มีขนาดเล็กลง มีพื้นที่ประมาณ 3.8-4 พัน ตร.ม. จากเดิมสาขาขนาดใหญ่จะมีพื้นที่ราว 1 หมื่น ตร.ม. และสาขาขนาดกลางจะมีพื้นที่ 6-7 พัน ตร.ม. โดยบริษัทคาดว่าจะเปิดสาขาขนาดเล็กเพิ่มที่สมุทรสงคราม และเพชรบุรี หลังจากเปิดสุโขทัยไปแล้วในสัปดาห์นี้ เนื่องจากบริษัทปรับกลยุทธ์วางสินค้าให้ตรงกับกลุ่มลูกค้า อีกทั้งที่ผ่านมาตามหัวเมืองใหญ่เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต มี 2-3 สาขาในแต่ละจังหวัด แต่เมื่อจะเปิดสาขาใหม่ในจังหวัดใกล้เคียงก็ควรจะมีขนาดเล็กลง
ทั้งนี้ สิ้นปี 58 โฮมโปรจะมีสาขาครบ 80 สาขา จากสิ้นปีก่อนมีจำนวน 72 สาขา
นอกจากนั้น ในช่วงปลายปี 58 หรือต้นปี 59 บริษัทคาดว่าจะเปิดสาขาแห่งที่ 2 ในประเทศมาเลเซีย หลังจากที่เปิดไปแล้ว 1 สาขาเมื่อปลายปี 57 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี แต่การเปิดสาขาในต่างประเทศไม่ง่ายนัก เพราะในมาเลเซียยังไม่เคยมีห้างลักษณะเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะขยายตลาดไปในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียนด้วย
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับงวดประจำปี 57 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 3,313.33ล้านบาท เพิ่มขึ้น 244.85ล้านบาท หรือ 7.98% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้จากการขาย จำนวน 47,964.75ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,958.11ล้านบาท หรือ 19.89% เป็นผลจากการเติบโตของสาขาเดิม และยอดขายของสาขาใหม่ ซึ่งในปีก่อนมีสาขาที่เปิดใหม่ “โฮมโปร" 7 สาขา (และเปิดทดแทนสาขาเดิม 1 สาขา) “เมกา โฮม" 2 สาขา
นอกจากนี้ได้เริ่มต้นเดินหน้าสู่ประชาคมอาเซียน ด้วยการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยสาขาแรกตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า ไอโอไอซิตี้มอลล์ เปิดดำเนินการปลายปี 57
บริษัทยังมีรายได้ค่าเช่าและบริการ จำนวน 1,190.82ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192.18ล้านบาท หรือ 19.24% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นของศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ และรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากพื้นที่ให้เช่าเพิ่มเติมของสาขาโฮมโปร สำหรับรายได้อื่นๆ 2,053.02ล้านบาท เพิ่มขึ้น 333.06 ล้านบาท หรือ 19.36% เป็นผลจากการเติบโตของรายได้ค่าโฆษณา การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าและการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการติดตั้งจากลูกค้า
สำหรับกำไรขั้นต้นปี 57 มีจำนวน 12,491.87ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,831.29 ล้านบาท หรือ 17.18% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายระหว่างปี อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายลดลงจาก 26.65% ในปีก่อนเป็น 26.04% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่ขายของธุรกิจโฮมโปรและโครงสร้างอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจเมกาโฮมที่ต่ำกว่า