บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ขาย"หุ้น บมจ.บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) หากสมมุติให้กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 58 มีการเพิ่มขึ้นในอัตรา 10%-20% และใช้ P/E กลุ่มพาณิชย์ที่ 31 เท่า ในการประเมินมูลค่าเหมาะสมเบื้องต้น จะได้ราคาพื้นฐานในช่วง 1.36-1.49 บาท ราคาปิดมีโอกาสที่จะปรับตัวลง(Downside) ได้อีกถึง 33%-39% โดยคาดราคาหุ้นทยอยปรับตัวลง ทยอยรับรู้พาร์ที่แท้จริง
BIG ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง กลับเข้ามาเทรดวันแรก เปิดตลาดที่ 3.98 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 3,084% เมื่อเทียบกับราคาปิดตามพาร์ใหม่ คือ 0.25 บาท/หุ้น ดังนั้นราคาหุ้นครั้งสุดท้ายจะอยู่ที่ 0.125 บาท/หุ้น เพราะราคาปิดตลาดในช่วงก่อนฟื้นฟูกิจการปี 50 อยู่ที่ 5 บาท/หุ้น ราคาพาร์อยู่ที่ 10 บาท แต่ในปัจจุบันราคาพาร์อยู่ที่ 0.25 บาท/หุ้น
ผลกระทบเป็นลบ โดยคาดว่าที่ราคาหุ้นทยอยปรับตัวลงมาตลอดวันในวันอังคารที่กลับมาซื้อขายวันแรก เพราะตลาดทยอยรับรู้เรื่องบริษัทเปลี่ยนพาร์ล่าสุดจาก 1 บาท เป็น 0.25 บาท (ปี 50 พาร์ครั้งแรกเป็น 10 บาท ลดมาเป็น 1 บาทก่อนหน้า) ก่อนที่จะกลับมาซื้อขายอีกครั้งในวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งนี้ในวันที่ 13 ม.ค.58 ตลาดฯอนุมัติให้ BIG ใช้พาร์ที่ 0.25 บาท แต่หุ้น BIG ยังไม่กลับมาซื้อขาย ดังนั้นจากงบปี 57 มูลค่าหุ้นทางบัญชี (Book Value) ที่พาร์ 1 บาทเป็น 0.51 บาท แต่หากใช้พาร์ใหม่ Book Value จะเหลือ 0.1284 บาท
แสดงว่าราคาหุ้นตอนนี้ซื้อขายด้วย P/BV สูงถึง 17.4 เท่า เช่นเดียวกับกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 57 ที่พาร์ 1 บาทเป็น 0.16 บาท แต่หากใช้พาร์ใหม่ EPS จะเหลือ 0.04 บาท แสดงว่าราคาหุ้นตอนนี้ซื้อขายด้วย P/E สูงถึง 56 เท่าแล้ว แม้การที่บริษัทจะใช้กลยุทธ์ต่างๆที่จะทำให้มีการเติบโตได้ในอนาคต แต่ก็ไม่คาดว่าจะทำให้ P/E และ P/BV ลดลงได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนเมื่อวันอังคารแสดงราคาหุ้นก่อนหน้าที่ 5 บาท เป็นราคาสุดท้ายในปี 50 ตอนนั้นพาร์ 10 บาท ก่อนหยุดการซื้อขาย และเมื่อหุ้นกลับเข้ามาซื้อขายใหม่วันแรก จะไม่มีการกำหนด ราคาเพดานสูงสุดและต่ำสุด (ceiling-floor) ตลาดจึงไม่มีราคาอ้างอิงที่เป็นพาร์ใหม่นั่นเอง