ปัจจุบัน บริษัทมีฐานลูกค้ากว่า 3 ล้านราย โดยมีลูกค้าที่ใช้บริการประจำ 3 แสนราย หรือคิดเป็น 10% ของลูกค้าทั้งหมด จึงหวังว่านาโนไฟแนนซ์จะช่วยผลักดันให้ลูกค้ากลุ่มที่เหลือมาใช้บริการมากขึ้น และแม้ว่าธุรกิจดังกล่าวแม้จะมีความเสี่ยงพอสมควร แต่บริษัทเชื่อว่าจะสามารถควบคุมปัญหาหนี้สงสัยจะสูญ(NPL)ได้ เนื่องจากปัจจุบันได้มีการตั้งสำรองไว้เกินกว่ามูลหนี้ NPL ประมาณ 5 เท่า
"นาโนไฟแนนซ์ จะทำการยื่นได้ในช่วงปลายไตรมาส 1 หรือต้นไตรมาส 2 นี้ ซึ่งยอมรับว่าความเสี่ยงคงจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีหลักประกัน แต่เชื่อมั่นว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ จากที่ผ่านมาก็มีการปล่อยสินเชื่อไม่เกิน 1 แสนบาทต่อรายอยู่แล้ว และบริษัทก็มีการตั้งสำรองหนี้สูญไว้สูง"นายประพล กล่าว
นายระพล กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตสินเชื่อคงค้างอีก 3-5% จากปีก่อนอยู่ที่ 7,768 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของตลาดรถจักรยานยนต์ที่คาดว่าในปีนี้จะมียอดผลิตอยู่ที่ 1.75 ล้านคัน จากปี 57 อยู่ที่ 1.7 ล้านคัน ประกอบกับ บริษัทเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 90 สาขาใน 53 จังหวัด อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนขยายธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ในกัมพูชาและลาวเพิ่มเติม ขอรอดูไปอีกระยะหนึ่งก่อน โดยที่ผ่านมามีพอร์ตสินเชื่ออยู่ในระดับหลักล้านบาท
สำหรับการเติบโตของรายได้ปีนี้ คาดจะดีกว่าปีก่อน แต่คงจะไม่เติบโตตามเป้าพอร์ตสินเชื่อ เนื่องจากธุรกิจของบริษัทฯการรับรู้รายได้จะทยอยเข้ามาช้ากว่าพอร์ตสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เชื่อมั่นว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจะปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งน่าจะเห็นภาพชัดเจนได้ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
ส่วนสิ่งที่ยังเป็นกังวลจะเป็นเรื่องของราคาสินค้าทางการเกษตรที่ปรับตัวลงตามราคาพลังงาน อย่าง ราคายางพารา อ้อย น้ำตาล ข้าวโพด และมันสัมปะหลัง ซึ่งมีผลต่อรายได้ของคนต่างจังหวัด ที่จะส่งผลต่อกำลังซื้อในภาพรวม รวมถึงภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย