ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในส่วนของ CK ปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปแล้ว 68% อุโมงค์แรกได้แล้วเสร็จในเดือน ธ.ค.57 และคาดว่าอุโมงค์ที่สองจะแล้วเสร็จในปลายปี 58 เป็นไปตามแผนการณ์ที่วางไว้ ในส่วนของสัญญาก่อสร้างอื่นๆ ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ได้เร่งรัดการก่อสร้างเพื่อให้เปิดให้บริการให้กับประชาชนได้อย่างเร็วที่สุด
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ CK เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนั้นเป็นโครงการที่สำคัญของ CK นอกจากจะเป็นโครงการที่ทำให้เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลครบเป็นวงกลมแล้วนั้น ยังเป็นโครงการที่มีความซับซ้อนในการก่อสร้าง และต้องใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมขั้นสูง และเป็นอุโมงค์รถไฟฟ้าเส้นแรกของประเทศไทยที่มีการขุดเจาะลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา โดย CK ดำเนินการโดยบุคลากรคนไทยเป็นหลักได้ขุดเจาะอุโมงค์แรกแล้วเสร็จตามกำหนด
ในส่วนของสัมปทานการเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแคและสนามไชย-ท่าพระ ที่มีกำหนดการเปิดให้บริการในปี 60 รวมถึงสัมปทานการเดินรถของรถไฟฟ้าสายม่วงช่วงเตาปูน-บางซื่อซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือน ส.ค.59 นั้น รัฐบาลได้เห็นชอบในหลักการที่จะเจรจากับ บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL)ซึ่งเป็นผู้เดินรถในส่วนแรก ซึ่งจะทำให้ระบบทั้งหมดมีการต่อเชื่อมอย่างมีประสิทธิภาพ มีความต่อเนื่อง สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนขบวนรถ และที่สำคัญที่สุดยังสามารถประหยัดต้นทุนค่าดำเนินการให้แก่ภาครัฐได้เป็นจำนวนมาก
ด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ CK ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ BMCL กล่าวว่า หาก รฟม.เจรจากับ BMCL ได้จบภายในปีนี้บริษัทเตรียมสั่งซื้อรถไฟฟ้ารองรับสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนี้ประมาณ 28 ขบวน ต้องใช้เงินลงทุน 2.2 หมื่นล้านบาท
สำหรับผลประกอบการของ CK ในปี 57 มีรายได้รวม 35,470 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,296 ล้านบาท และในไตรมาส 1/58 บริษัทมีงานในมือ(Backlog )กว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ก่อสร้างประมาณ 8,000 ล้านบาท และรักษากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับ 8-10%
ส่วนงานในอนาคต บริษัทได้เตรียมความพร้อมที่จะเข้าประมูลในโครงการรถไฟฟ้าทุกเส้น ทั้งในรูปแบบรับจ้างก่อสร้างหรือลงทุนแบบ PPP ตามนโนบายของภาครัฐ รวมไปถึงโครงการรถไฟทางคู่ที่รัฐบาลอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปในการร่วมลงทุนกับประเทศจีนและญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทสามารถใช้ศักยภาพในการเป็นทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ลงทุนได้ด้วยและพร้อมเปิดกว้างจะรับพันธมิตรจากประเทศจีนและญี่ปุ่น ในกรณีที่ต้องเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างสองประเทศ ซึ่งมั่นใจว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาสที่ 1/58
ขณะที่ล่าสุด CK เพิ่งได้งานก่อสร้างอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมูลค่า 2.7 พันล้านบาท และในเดือนมี.ค.นี้เตรียมเข้าประมูลงานถนนมอเตอร์เวย์ช่วงพัทยาและมาบตาพุด