รวมทั้ง นางเบ็ญจวรรณ เผ่าจินดามุข ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, นายสมสกุล เผ่าจินดามุข ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, นางสาวเฉลา กาญจนา บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และ นายนิติราษฎร์ บุญโย ผู้ดูแลเวปไซต์ www.bangkokbiznews.com
เนื่องจากบุคคลทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเขียนและตีพิมพ์บทความลงในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เว็ปไซต์ www.bangkokbiznews.com และเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า “Adisak Limparungpatanakij" ในระหว่างวันที่ 4 ถึง 11 มกราคม 2558 กล่าวหานายฉายว่าเป็นผู้วางแผน และอยู่เบื้องหลังการใช้ Nominee เทคโอเวอร์ บมจ.เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป(NMG)
"ข้อเขียนดังกล่าวทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ว่า นายฉาย บุนนาค เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกรณีที่บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยเป็นผู้วางแผนและมีจุดประสงค์เข้าควบคุมกิจการ หรือครอบงำกิจการ (เทคโอเวอร์) NMG กับทั้งข้อเขียนยังเข้าใจได้อีกว่า นายฉาย ได้ให้ตัวแทน (นอมินี) เข้าซื้อหุ้นของ NMG ซึ่งอาจเป็นความผิดตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.12/2554 เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ Acting in Concert และมีการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พุทธศักราช 2535 มาตรา 247 (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) อีกด้วย"ทนายความ ระบุ
นายสุธี กล่าวว่า ความเป็นจริงนายฉายไม่มีส่วนเกี่ยวกับข้อง SLC ตลอดจนไม่เคยเข้าซื้อหุ้นของ NMG หรือมอบหมายให้ตัวแทนเข้าซื้อหุ้น NMG ข้อเขียนดังกล่าวล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น ทำให้นายฉาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และถูกมองว่าเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เป็นข้อหาหรือฐานความผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 326 และ มาตรา 328 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พุทธศักราช 2550 มาตรา 14(1) และ 15
ดังนั้น เพื่อรักษาชื่อเสียงของครอบครัวและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงเรียกร้องความเป็นธรรมจากการถูกกระทำ และถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม ติดต่อกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ตนจึงได้รับการมอบหมายจากนายฉายในการร้องทุกข์กล่าวโทษ นายอดิศักดิ์ และพวกในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษทางอาญาทั้งจำทั้งปรับ