(เพิ่มเติม) WHA รุกขยายพื้นที่สนง.ให้เช่า-ขายสินทรัพย์เข้า REIT กว่า 1.35 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 9, 2015 15:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางจรีพร อนันตประยูร กรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการดำเนินการสร้างอาคารสำนักงานให้เช่าเพิ่มอีก 1 แห่ง บริเวณถนนบางนา-ตราด ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์บนทำเลทองของภาคอุตสาหกรรม โดยโครงการดังกล่าวมีพื้นที่ใช้สอยทั้งสิ้น 30,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นส่วนพื้นที่ให้เช่า 24,000 ตารางเมตร และพื้นที่ก่อสร้างพื่อลูกค้าเฉพาะราย 6,000 ตารางเมตร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี

สำหรับกลุ่มผู้เช่าหลัก ของอาคารสำนักงานแห่งใหม่ คาดว่าจะเป็นลูกค้าที่อยู่ในภาคการผลิตที่มีโรงงานผลิตบริเวณนิคมอุตสาหกรรมตะวันออกเป็นหลัก

พร้อมทั้งบริษัทยังมีแผนในอนาคต ที่จะมุ่งเน้นการขยายอาคารสำนักงานให้เช่าอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการก่อสร้างอาคารแห่งใหม่ รวมไปถึงการเข้าซื้ออาคารที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว โดยอิงกับที่ตั้งบนทำเลที่เหมาะสม และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ WHA ได้เพิ่มไลน์ธุรกิจ โดยรุกตลาดอาคารสำนักงานเช่า หลังเมื่อไตรมาส 3/57 ได้เข้าซื้ออาคารโครงการ Equinox The Office Place และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น SJ Infinite I Business Complex เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า 30 ชั้นย่านถนนพหลโยธิน-วิภาวดี โดยวางเป้าหมายปีนี้จะมีผู้เช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานดังกล่าวประมาณ 75-80% ของพื้นที่ทั้งหมด 21,500 ตารางเมตร จากปัจจุบัน มีผู้เช่าพื้นที่ ภายในอาคารสำนักงานแล้วกว่า 50%

"การรุกตลาดธุรกิจอาคารสำนักงานเช่าในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของรายได้ที่มาจากค่าเช่า และเป็นการกระจายความเสี่ยงให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง ประกอบกับบริษัทมองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ที่ยังมีแนวโน้มการขยายตัวจากภาคธุรกิจไทย ภายหลังการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน"นางจรีพร กล่าว

นางจรีพร กล่าวว่า สำหรับอาคารสำนักงานให้เช่าที่บริเวณถนนบางนา-ตราดนั้น จะอยู่ภายใต้ชื่อ SJ Infinite 2 มูลค่าราว 3,000-3,500 ล้านบาท ขณะที่ตามแผนการขยายอาคารสำนักงานให้เช่านั้น วางเป้าหมายจะให้มีพื้นที่เช่าเพิ่มเป็น 1 แสนตารางเมตรภายใน 3 ปี (58-60) จากระดับ 30,000 ตารางเมตรในปัจจุบัน โดยจะเน้นการสร้างใหม่เป็นหลัก เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และน่าจะส่งผลทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจดังกล่าวเพิ่มเป็น 10% ของรายได้รวมทั้งหมดในปี 60 เช่นกัน

ส่วนพื้นที่คลังสินค้าให้เช่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่อีก 2 แสนตารางเมตร จากปัจจุบันมีอยู่ 1.2 ล้านตารางเมตร โดยจะดำเนินการก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติมบริเวณถนนบางนา-ตราด ,ชลบุรี-ระยอง,ลาดกระบัง,พระราม 2 และแหลมฉบัง

นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHA กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรในปี 58 จะเติบโตกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 5,057.69 ล้านบาท และกำไร 978.62 ล้านบาท โดยเฉพาะภายหลังจากที่บริษัทเข้าซื้อกิจการ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์ ออฟเฟอร์)คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ และมั่นใจจะเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน HEMRAJ ในสัดส่วน 60-70% ซึ่งการซื้อกิจการดังกล่าวน่าจะคุ้มทุนภายใน 2 ปี

"ปีนี้รายได้-กำไร จะเติบโตมากกว่าเท่าตัว หลังจากที่มีการเข้าซื้อเหมราชฯ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้เร็วๆนี้ และมั่นใจจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 60-70% อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเราก็จะพิจารณานำสินทรัพย์ดังกล่าวมาจัดตั้งกอง REIT ในปีนี้ด้วย"นายแพทย์สมยศ กล่าว

นายแพทย์สมยศ กล่าวว่า บริษัทมีแผนนำสินทรัพย์ขายเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)เดิม และจัดตั้งกองใหม่ในปีนี้ มูลค่ารวมราว 13,500 ล้านบาท ได้แก่ สินทรัพย์ของ HEMRAJ ซึ่งจะจัดตั้งกอง REIT ใหม่มูลค่า 7,500 ล้านบาท, ตั้งกอง REIT ที่มีสำนักงานออฟฟิศให้เช่า SJ infinite I และสำนักงานให้เช่าย่านบางนา พื้นที่รวมกว่า 3,000 ตารางเมตรเป็นสินทรัพย์อ้างอิง มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะจัดตั้งได้ภายในไตรมาส 3/58 และนำคลังสินค้าให้เช่าราว 1.7-1.8 แสนตารางเมตรขายเข้ากอง REIT เดิมเพิ่มอีก มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/58

นอากจากนั้น บริษัทยังเตรียมขายที่ดินเปล่าของ HEMRAJ ติดชายหาดบนเกาะล้าน มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง และจะจัดตั้งกอง REIT ที่มีสินทรัพย์ของ HEMRAJ เป็นสินทรัพย์อ้างอิงอีก 1 กอง มูลค่า 7,500 ล้านบาทในปี 59 ด้วย

สำหรับการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มอาเซียนนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างพื้นที่คลังสินค้าในประเทศอินโดนีเซีย มีพื้นที่ราว 2 หมื่นตารางเมตร และอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าไปสร้างคลังสินค้าในประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปีนี้ และจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้า โดยบริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าในกลุ่มประเทศอาเซียนไม่น้อยกว่า 1 แสนตารางเมตรภายใน 3 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ