ด้านนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร TUF เปิดเผยว่า ยอดขายปีนี้บริษัทฯยังมั่นใจว่าจะขึ้นไปแตะ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนที่ 3.7 พันล้านเหรีญสหรัฐ การเติบโตของยอดขายในปีนี้มาจากภายในธุรกิจหลักของบริษัทฯ ในขณะเดียวกันจะนำเสนอความหลากหลายของผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมี่ยม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคในตลาดต่างๆ ทั่วโลก
"ภาพรวมธุรกิจในปีนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีเป้าหมายยอดขายที่ระดับ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งปีนี้ยังเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย คุณภาพระดับพรีเมี่ยม ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก ขณะที่เป้าหมายยอดขายในปี 63 ที่ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ นั้น บริษัทฯจะกลับมาทบทวนอีกครั้งในช่วงกลางปี 59 หลังดำเนินการร่วมกิจการกับบริษัทบัมเบิลบี ซีฟูดส์ เรียบร้อยแล้ว"นายธีรพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมกุ้งปีนี้ปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะเติบโตได้ราว 10% คาดว่าประเทศไทยจะสามารถผลิตกุ้งได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 แสนล้านตัน จากปีก่อนที่ผลิตได้ราว 2-2.1 แสนล้านตัน ซึ่งฟื้นตัวขึ้นมาได้ค่อนข้างดี
สำหรับการเพิ่มทุนจำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย. นี้ โดยหลังจากที่เพิ่มทุนแล้วเสร็จจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่มขึ้นเป็น 1.1 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.85 เท่า
ทั้งนี้ เพื่อใช้ในการเข้าซื้อหุ้นจำนวน 1,000,001 หุ้น หรือ 100% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท บัมเบิลบี ซีฟูดส์ จำกัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก ประกอบกิจการอารหารบรรจุหีบห่อแนวหน้าในทวีปอเมริกาเหนือ และเป็นแบรนด์อาหารทะเลชื่อดังในตลาดสหรัฐและแคนาดาโดยคาดว่าการเข้าซื้อกิจการจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปี 58 นี้
"เราต้องการเพิ่มทุนแค่ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ต้องการมากกว่านั้น และหลังจากเพิ่มทุนแล้ว จะมี D/E อยู่ที่ 1.1 เท่า แต่หากเข้าซื้อกิจการโดยไม่เพิ่มทุนเราจะมี D/E สูงถึง 1.7 เท่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้คาดว่าจะมีส่วนลดไม่เกิน 20% เหมือนกับการเพิ่มทุนในครั้งก่อน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่เหมาะสม และได้รับประโยชน์ทั้งตัวบริษัทฯรวมถึงผู้ถือหุ้น โดยจะสามารถกำหนดราคา วันเสนอขายในช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้ และการเข้าซื้อกิจการจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีหลัง"นายธีรพงศ์ กล่าว