“โครงการนี้เป็นโครงการที่เทศบาลนครขอนแก่นจะร่วมกับภาครัฐและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จะมี 2 โปรเจ็คต์ คือ รถไฟฟ้าระบบรางบนดิน มูลค่า 4-5 พันล้านบาท และโครงการหอประชุมนานาชาติ 500-700 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแผนการพัมนาโครงการและจะเสร็จในปีนี้ ผมมองว่าเรามีโอกาสมีส่วนร่วมในโครงการรถไฟฟ้าที่จะเริ่มก่อสร้างในปี 2-3 ปี ดาดว่าคงเสร็จในปี 63 ระหว่างที่ก่อสร้างนั้นเราก็จะผลักดันโครงการรถไฟฟ้าจัดตั้งเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเราพร้อมจะมีส่วนร่วมในสัมปทานการเดินรถอีกด้วย"นายสุรเดช กล่าว
สำหรับธุรกิจปัจจุบัน จากการที่บริษัทได้มีการยื่นซองประมูลเสนอขายรถลำเลียงอาหารให้กับสายการบินเอมิเรตแอร์ไลน์ที่ดูไบไปแล้วนั้น ขณะนี้ได้มีการประกาศผลออกมาแล้ว ซึ่งบริษัทได้งานดังกล่าวเป็นมูลค่ารวม 100-150 ล้านบาท
นายนิติธร ดีอำไพ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-การเงิน CHO กล่าวว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 1/58 ของบริษัทคาดว่าจะดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 1/58 จะเติบโต 10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/57 เนื่องจากบริษัทได้รับรู้รายได้จากมูลค่างานในมือ(Backlog)จำนวน 250 ล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่กว่า 600 ล้านบาท อีกทั้งยังมีงานอื่นๆ เข้ามาเสริมรายได้ของบริษัทให้มีการเติบโตขึ้น
ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจรายได้รวมในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.52 พันล้านบาท และจะเพี่มอัตรากำไรสุทธิเป็น 7% จากปีก่อนอยู่ที่ 6.43% โดยบริษัทจะเน้นการรับงานต่างประเทศมากขึ้นกว่างานในประเทศ เพราะให้อัตรากำไรดีกว่า ซึ่งในปีนี้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 60% จากปีก่อนอยู่ที่ 50% เน้นงานในโซนตะวันออกกลาง เวียดนาม ฮ่องกง และเกาหลีใต้
นายนิติธร กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ในช่วงไตรมาส 3/58 วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ไม่เกิน 3 ปี โดยจะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้ไปใช้ในการขยายกำลังการผลิตโรงงานเดิมของบริษัท และเพิ่มศูนย์ซ่อมบำรุงของบริษัท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้จากทางบริษัท ทริสต์เรตติ้ง จำกัด