บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์นแนะ"ขาย"หุ้น บมจ. พรีเชียส ชิพปิ้ง(PSL) มองว่าการออกแบบโครงสร้างการเพิ่มทุนด้วยราคาเสนอขายที่ต่ำเกินไป ขณะที่จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นถึง 50% นอกจากจะส่งผลต่อลบต่อมูลค่าเหมาะสมซึ่งอิงกับมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นแล้ว ยังเป็นการบ่งบอกทางอ้อมว่าอุตสาหกรรมเรือเทกองอ่อนแอกว่าบริษัทคาดมาก ทำให้การถือสัญญาต่อเรือกว่า 24 ลำจึงดูมีความเสี่ยงในระยะ 1-2 ปีนี้
พร้อมให้ราคาเหมาะสมปี 2558 หลังการเพิ่มทุน 12.60 บาท/ หุ้น (ก่อนเพิ่มทุน 16.60 บาท/ หุ้น) โดยมองว่าอุตสาหกรรมเรือเทกองยังไม่น่าสนใจในระยะนี้
PSL แจ้งตลาดวานนี้ถึงมติเพิ่มทุน 571 ล้านหุ้น แบ่งเป็น เพิ่มทุนแบบ Right Offering (RO) จำนวน 519.7 ล้านหุ้น สัดส่วน 2:1 ที่ราคาเพียง 4.00 บาท/ หุ้น ส่วนที่เหลือ 51.9 ล้านหุ้นจัดสรรไว้รองรับ PSL-W1 ซึ่งผู้ใช้สิทธิเพิ่มทุนจะได้รับฟรี โดยใบสำคัญแสดงสิทธินี้ มีอายุ 3 ปี อัตราแปลงสภาพ 1 : 1 และมีราคาใช้สิทธิ 17.50 บาท/ หุ้น กำหนดประชุมวิสามัญ 10 เม.ย.58 ขณะที่วันขึ้นเครื่องหมาย XR, XW จะประกาศในลำดับถัดไป
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายเพียง 4.00 บาท ต่ำกว่าราคาในกระดาน 75% และมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น 73%(14.70 บาท)แม้จะดึงดูดให้ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิเพิ่มทุนเพื่อเฉลี่ยต้นทุนการถือครองหุ้น และลุ้นการฟื้นตัวไปยาวๆกับ PSL แต่เรากลับมองว่า ราคาเพิ่มทุนที่ต่ำนี้จะสร้าง Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้นในกระดาน เพราะแม้ PSL จะได้สภาพคล่องเข้ามามาก แต่ราคาหุ้นจะมีความเสี่ยงจากแรงขายทำกำไรอย่างต่อเนื่องหากลูกหุ้นเข้ามาซื้อขายในกระดานแต่อุตสาหกรรมเรือเทกองยังไม่ฟื้นตัว