"เราจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเพื่อที่จะให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนชื่อเป็น เซ็นทรัล ออนไลน์ กรุ๊ป จะตรงกับทิศทางของการดำเนินธุรกิจมากกว่าในปัจจุบัน อีกส่วนหนึ่งนักลงทุนต่างชาติคงเข้าใจมากขึ้นว่าธุรกิจเราคืออะไร จากที่ชื่อเดิมอาจจะทำให้มีความสับสนกับทิศทางการดำเนินธุรกิจ"นายวรวุฒิ กล่าว
ในปี 58 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 58 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 15% หรือรายได้ทะลุ 1 พันล้านบาท จากปี 57 ที่มีรายได้ราว 9.2 พันล้านบาท คาดว่ารายได้จากออฟฟิศเมทจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% และรายได้ B2S จะเติบโตราว 7% โดยปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 400-500 ล้านบาทเพื่อใช้ในการขยายสาขา Office Mate 8 แห่ง และ B2S อีก 8 แห่ง ใช้เงินลงทุนราวแห่งละ 20-30 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจออนไลน์ 800 ล้านบาท โดยจะเพิ่มสินค้าเข้าให้ครบ 1.2-1.5 แสนรายการ จากปี 57 มีสินค้าทั้งหมด 5 หมื่นรายการ และเตรียมเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มี.ค. พร้อมเปิดตัวพันธมิตรรายใหญ่ที่จะเป็นผู้เข้ามาเสนอขายสินค้าผ่านออนไลน์ ซึ่งบริษัทคาดว่าธุรกิจออนไลน์จะใช้ระยะเวลาคืนทุนภายใน 5 ปี หรือมีรายได้สูงขึ้นไปแตะ 2 พันล้านบาท
ล่าสุด บริษัทได้จัดตั้ง บริษัท เซ็นเนอร์จี อินโนเวชั่น จำกัด ซึ่ง OFM ถือหุ้น 99.99% เพื่อทำหน้าที่พัฒนาเทคโนโลยีรองรับการขายสินค้าออนไลน์ และพัฒนาระบบต่างๆของเซ็นทรัลกรุ๊ปในอนาคตด้วย โดยตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในปีนี้ และ OFM ยังเตรียมงบลงทุนไว้ราว 500-1,000 ล้านบาทเพื่อร่วมลงทุน (Venture Capital) กับธุรกิจด้านเทคโนโลยี ซึ่งมีนโยบายเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 25-75% แหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดของบริษัทที่มีอยู่กว่า 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเพิ่มธุรกิจด้านโลจิสติกส์เพื่อรองรับการขายสินค้าออนไลน์ของเซ็นทรัลกรุ๊ป คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของธุรกิจเสนอขายสินค้าออนไลน์ และอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทย
"ปีนี้บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้จะทะลุ 1 หมื่นล้านบาท โดยจะเติบโตในทุกธุรกิจ ขณะที่ธุรกิจออนไลน์ปีนี้เราจะรุกหนักมากขึ้น ซึ่งเราเตรียมเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการในเดือนนี้ แต่ปีนี้เพิ่งเป็นการเริ่มต้นคงจะยังไม่เห็นผลกำไรเข้ามา แต่รายได้จาก บริษัท เซ็นเนอร์จี อินโนเวชั่น จำกัด จะเข้ามาช่วยลดขาดทุนจากธุรกิจออนไลน์ได้ 50-60% ซึ่งการดำเนินธุรกิจออนไลน์ของเราจะเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนจะไม่เน้นการเติบโตด้วยโปรโมชั่น ส่งผลดีต่อการเติบโตในอนาคต" นายวรวุฒิ กล่าว
นายวรวุฒิ กล่าวถึงแนวโน้มอัตรากำไรสุทธิปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 1% จากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 4.8% โดยเป็นการเติบโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงสาขาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย รวมถึงเพิ่มสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัทฯซึ่งมีมาจิ้นสูงที่ช่วยให้อัตรกำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นได้ 1-2%