ดังนั้น บริษัทจึงคาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 59 หากมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจสลากออนไลน์ ประกอบกับ บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการพลังงานทดแทนเพิ่มชึ้น โดยตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 60-70 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังผลิตราว 8 เมกะวัตต์
นายเฉลิมโชค กล่าวว่า ในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม) ที่บริษัทฯร่วมกันดำเนินธุรกิจกับ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นอยู่ 75% ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตจากทางกระทรวงพลังงาน 3 โครงการ ขนาด 15 เมกะวัตต์ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จได้ในช่วงปลายปีนี้ และสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในช่วงต้นปี 59 ขณะที่โครงการพลังงานลมขนาด 6 เมกะวัตต์นั้น บริษัทฯได้เข้าไปติดตั้งเสาวัดลมในภาคใต้แล้ว คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ในปี 59 เช่นกัน
นอกจากนั้น บริษัทยังก็อยู่ระหว่างศึกษาเข้าลงทุนโครงการพลังงานขยะและชีวมวลเพิ่มเติม โดยจะร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความพร้อมทางด้านการเงินที่แข็งแกร่ง โดยการลงทุนดังกล่าวไม่น่าจะใช้เงินเกิน 300-400 ล้านบาท
นายเฉลิมโชค กล่าวว่า ในปี 58 บริษัทตั้งเป้ารายปีนี้จะเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ที่ 14,476 ล้านบาท โดยจะมีการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Blacklog) ที่ค้างมาจากปีก่อนราว 70% ของมูลค่างานทั้งหมด 7,420 ล้านบาท และเตรียมเข้าประมูลงานภาครัฐเพิ่มอีกกว่า 4 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นงานวางโครงข่าย ICT ของภาครัฐ งานรถไฟฟ้า งานสถาบันการศึกษา งานระบบตั้วรถ BUS เป็นต้น มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งคาดหวังจะได้รับงานให้ได้มากที่สุด