"ปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายเหล็กเติบโต 20% จากปีก่อน โดยยอดขายของเราอาจจะสูงกว่ารายได้ปีนี้ที่คาดเติบโต 15-18% เพราะอย่างที่ทราบๆ โดยทั่วกันว่า ราคาเหล็กมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ทำให้ตัวเลขรายได้ และยอดขายอาจจะไม่สอดคล้องกัน ถ้าเรามาดูเรื่องของอัตรากำไรสุทธิก็เช่นกันน่าจะลดลงจากปีก่อน ในปีนี้สิ่งที่เราต้องทำ คือ การลดต้นทุนการผลิตลงให้มากที่สุ ดและลดการสต๊อกเหล็กลง เพื่อช่วยพยุงไม่ให้มาร์จิ้นลดลงจนมากเกินไปนัก " นางสาวธิติมา กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่าในปีนี้ คาดอัตรากำไรสุทธิมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 2.58% เพราะบริษัทฯ พึ่งพิงยอดขายจากเหล็ก และในปีนี้แนวโน้มของราคาเหล็กมีโอกาสที่จะลดลงต่อเนื่อง จึงน่าจะกระทบต่อการทำกำไร ทั้งนี้ บริษัทฯ หวังว่าโครงการลงทุนของภาครัฐใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนผลักดันให้อุตสาหกรรมเหล็กฟื้นตัว โดยจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ