ขณะเดียวกันตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้เพิ่มเป็น 5% จาก 4.2% ในปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะใช้ความสามารถของเครื่องจักรให้มากขึ้นกว่าการใช้แรงงานคน เพราะมีต้นทุนที่ถูกกว่าและทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคาดว่าการใช้กำลังการผลิตในปีนี้จะเพิ่มเป็น 70% จาก 60% ในปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นจะส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นตาม โดยมีเป้าหมายอัตรากำไรสุทธิในปีนี้มากกว่า 3% จาก 2.5% ในปีก่อน
สำหรับแผนการร่วมทุนและการเข้าซื้อกิจการ (M&A) บางส่วนในต่างประเทศเพื่อเสริมศักยภาพและการขยายฐานลูกค้าของบริษัทนั้น ขณะนี้ได้เจรจากับพันธมิตรใน 3 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย ซึ่งบริษัทให้ความสนใจที่จะเข้าไปร่วมทุน ส่วนมาเลเซีย และจีน ได้เจรจาในรูปแบบการเข้าไปถือหุ้นบางส่วนในบริษัทของพันธมิตร โดยมีความเป็นไปได้ที่ภายในปีนี้อาจจะมีความชัดเจนเรื่อง M&A ในอินเดียและมาเลเซีย โดยมูลค่ารวมในการดำเนินการร่วมทุนและการเข้าซื้อกิจการบางส่วนของพันธมิตรทั้ง 3 ดีลนั้นอยู่ที่ 500-1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะใช้เงินลงทุนส่วนหนึ่งจากการออกหุ้นกู้ ซึ่งบริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้มุลค่า 500-800 ล้านบาท อายุ 3 ปี ในช่วงไตรมาส 2/58 ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ BBB+ ประกอบกับบริษัทยังมีกระแสเงินสดระดับ 800-1,000 ล้านบาท/ปี และ มีเงินลงทุนบางส่วนจากงบลงทุนในปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 400 ล้านบาทด้วย