LPN ตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 ให้เป็น “ชุมชนเมืองน่าอยู่" แห่งใหม่ของรังสิต โดยเมืองรังสิตนับเป็นอีกหนึ่งมุมเมืองของกรุงเทพฯตอนเหนือที่มากศักยภาพรอบด้าน ด้วยเป็นแหล่งรองรับคนทำงานในวัยเริ่มต้นชีวิตจำนวนมาก บริษัทจึงได้พัฒนาโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการที่พักอาศัยคุณภาพในราคาที่เหมาะสมและเป็นเจ้าของได้ง่าย (Affordable Price) โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยเริ่มต้นชีวิตคือวัยเรียนและวัยทำงาน เป็นการสานฝันการมีบ้านหลังแรกให้เป็นจริงได้ โดยได้นำคุณค่าผลิตภัณฑ์ (Product Value) พัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ให้สมบูรณ์พร้อมด้วย Total Solutions Services ได้แก่ Market Place รังสิตคลอง 1 จาก SF และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการต่างๆมากมาย อาทิ ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ป้อมตำรวจชุมชนตลอด 24 ชั่วโมง การบริการสุขภาพจากสถานพยาบาลหรือคลีนิคชั้นนำ และอื่นๆ รวมถึงคุณค่าการบริการ (Service Value) ซึ่งเมื่อบวกกับแนวคิดธุรกิจเชิงคุณค่าร่วม(Business Share Value) ระหว่าง LPN ซึ่งมีความชำนาญในด้านการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัย และความเป็นมืออาชีพของ SF ในด้านเป็นการพัฒนาศูนย์การค้าชุมชนที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ความร่วมมือในการพัฒนาศูนย์การค้าชุมชนแบบเปิดระหว่าง LPN และ SF จะทำให้โครงการนี้เป็น “ชุมชนเมืองน่าอยู่" ที่สมบูรณ์และตอบสนองความต้องการให้กับผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง
นายกิตตินันท์ สำรวจรวมผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน SF เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยในปัจจุบันซึ่งมีทิศทางขยายตัวออกสู่เขตชานเมืองเพิ่มมากขึ้นทำให้พื้นที่เขตรอบนอกกรุงเทพฯที่ในอนาคตมีศักยภาพเป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางคมนาคม ได้รับการพัฒนาเป็นโครงการที่พักอาศัยจำนวนมากการพัฒนา “Market Place รังสิต คลอง 1" ใน “ชุมชนเมืองน่าอยู่" โครงการ ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 ครั้งนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และวงการศูนย์การค้าไทย เพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบเบ็ดเสร็จที่หน้าบ้าน ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ให้สามารถ กิน-เที่ยว-ช้อป ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางภายใต้แนวคิด “Neighborhood Center" โดย “Market Place รังสิตคลอง 1" มีลักษณะเป็นศูนย์การค้าแบบเปิด (Open-air Shopping Center) 3 ชั้น มีพื้นที่โครงการรวมกว่า 11,000 ตรม. พื้นที่ส่วนกลางประมาณ 3,300 ตรม. โดยในส่วนของพื้นที่ขาย แบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ ชั้น 1 ส่วนพื้นที่เช่าประมาณ 3,200 ตรม. เพิ่มเติมส่วนสถานพยาบาลและเซเว่น อีเลฟเว่น 300 ตรม.ชั้น 2 พื้นที่เช่าประมาณ 2,500 ตรม. และส่วนชั้น 3 เป็นพื้นที่ห้องประชุมเจ้าของร่วมของ LPN ประมาณ 1,700 ตรม.
ในส่วนของการจัดสรรพื้นที่เช่าชั้น 1-2 แบ่งออกเป็น 7 โซนตามประเภทธุรกิจ คือ 1.โซนอาหารและเครื่องดื่ม 2.โซนซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับไฮเอนด์ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท เซ็นทรัลฟู้ด รีเทลล์ จำกัด ผู้เช่าพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ ภายใต้แบรนด์ ท็อปส์มาร์เก็ต (Tops Market) 3.โซนการศึกษา 4.โซนสุขภาพและความงาม 5.โซนธนาคารและสถาบันการเงิน 6 โซนแฟชั่น และ 7.โซนอื่นๆ รวมกว่า 30ร้านค้าโดยสามารถจอดรถยนต์ได้สูงสุดทั้งหมด 150 คัน คาดว่าในแต่ละวันจะมีผู้มาใช้บริการมากกว่า 5,000 คน และสำหรับในอนาคตอันใกล้นี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายโครงการทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือตามหัวเมืองต่างๆที่สำคัญ เช่น นครปฐม นนทบุรี ฉะเชิงเทรา
นายธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต เปิดเผยว่า ปัจจุบันเมืองรังสิตถือเป็นแหล่งที่พักอาศัยสำคัญ รวมถึงเป็นประตูสู่ภาคเหนือและภาคอีสานที่มีการลงทุนด้านต่างๆและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยเป็นแหล่งงาน ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมนวนครฯ สถานศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีฯ รวมถึงมีตลาดขายส่งขนาดใหญ่ ได้แก่ ตลาดรังสิต เซียร์รังสิต ตลาดสี่มุมเมือง นอกจากนั้นยังมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำได้แก่ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต รวมถึงอิเกียรังสิต เมการังสิต และเซ็นทรัล รังสิตในอนาคต ขณะเดียวกันก็มีระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่จะรองรับในอนาคตอันใกล้ด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดงสายบางซื่อ-รังสิต-ธรรมศาสตร์ และ สีเขียวเข้ม สายหมอชิต-สะพานใหม่-ลำลูกกา ที่จะทำให้การเดินทางเข้าไปยังเขตกรุงเทพฯ ชั้นในสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งการพัฒนาโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 ของ LPN จะสามารถรองรับความต้องการที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดี