ขณะที่รายได้ของบริษัทในปีนี้ตั้งเป้าอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท หรือเติบโต 25-30% จากปีก่อนที่ 1.1 พันล้านบาท มาจากยอดขายเครื่องกรองน้ำและสารกรอง 95% และอีก 5% เป็นการแอร์และอื่นๆ โดยได้มีการจำหน่ายเครื่องน้ำรุ่นใหม่ถึง 9 รุ่น ในปีนี้ ได้แก่ P-Health , Super Alkaline Alkaline Plus , Alkaline Mini , UV Plus ,ROMA , Ecomize และ Alkaline Deluxe ผ่าน 4 ช่องทางการขาย คือ พนักงานขายของบริษัท (Single level-Direct Sale), โมเดิร์นเทรด , Online และพันธมิตรหรือตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัด
ทั้งนี้ ในส่วนตลาดโมเดิร์นเทรด ซึ่งได้เริ่มวางจำหน่ายที่โฮมโปรทั้ง 14 สาขาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้ามาก ซึ่งมองว่าในไตรมาส 1/58 ยอดขายจะเติบโตกว่าในช่วงไตรมาส 4/57 เล็กน้อย แต่จะเติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/57 เนื่องจากกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังการเมืองสงบ อีกทั้งเครื่องกรองเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต
สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากการขายเงินผ่อน 90% และเงินสด 10% นอกจากนี้บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนการขายในต่างจังหวัดเพิ่มเป็น 20% จากปีก่อนที่ 10% และสัดส่วนการขายในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะเป็น 80% จากปีก่อนที่ 10%
นอกจากนี้ บริษัทวางงบลงทุนจำนวน 100 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อใช้สำหรับการขยายสาขาใหม่จำนวน 5 สาขา โดยในสิ้นปี 58 จะมีสาขาทั้งหมด 19 แห่งจากสิ้นปี 57 ที่มี 14 แห่ง และการพัฒนาและปรับปรุงระบบไอทีของบริษัท การขายคลังสินค้าเพื่อรองรับสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากมีการขยายโรงใหม่แห่งที่ 4 เสร็จสมบูรณ์ ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 30,000 เครื่องต่อเดือน จากเดิมที่มีกำลังการผลิต 15,000 ต่อเดือน
ด้านการขยายตลาดไปยังต่าประเทศปัจจุบันได้มีพันธมิตรจากทวีปแอฟริการายหนึ่งที่สนใจนำสินค้าไปจำหน่าย ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงกลางปี 58 พร้อมกันนี้ ยังมีความสนใจในการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศในเขตเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน (AEC) อย่างเช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะได้เริ่มการส่งออกไปยัง AEC ในปี 59 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาดใน 3 ประเทศดังกล่าว