สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (9 - 13 มีนาคม 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม 488,460.91 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 97,692.18 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 45% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 57% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 278,319 ล้านบาทเป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 142,415 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 8,504 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A (อายุ 4.3 ปี) LB21DA (อายุ 6.8 ปี) และ LB176A (อายุ 2.3 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 45,741 ล้านบาท 30,789 ล้านบาท และ 28,170 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด รุ่น AWN244B (AA+) มูลค่าการซื้อขาย 761 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รุ่น BECL16OA (A) มูลค่าการซื้อขาย 576 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด รุ่น RG153A (AA+) มูลค่าการซื้อขาย 407 ล้านบาท
ราคา (Price) ของพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นในตราสารช่วงอายุ 1 เดือน ถึง 3 ปี หรือผู้ซื้อจะได้ผลตอบแทน (Yield) ลดลง ประมาณ 0.09% - 0.20% หากเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เมื่อวันที่ 11 มี.ค. มีมติด้วยเสียง 4 ต่อ 3 ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% คงเหลือ 1.75% เพื่อเพิ่มแรงหนุนต่อเศรษฐกิจ หลังการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ผลตอบแทน (yield) ของพันธบัตรรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ด้านตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 295,000 ราย จาก 239,000 รายในเดือน ม.ค. และอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.5% จากระดับ 5.7% ในเดือน ม.ค. ส่งผลต่อการคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Funds Rate) ในเดือน มิ.ย. นี้
นอกจากนี้แล้ว การประมูลพันธบัตรระยะสั้น (อายุน้อยกว่า 1 ปี) ทั้งตั๋วเงินคลังและพันธบัตร ธปท. ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยความต้องการประมูลในจำนวนที่สูงกว่าปริมาณพันธบัตรที่ออกขาย (ค่า Bid Coverage Ratio: BCR) ประมาณ 1.67-2.64 เท่า
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (9 - 13 มี.ค. 58) (2 - 6 มี.ค. 58) (%) (1 ม.ค. - 13 มี.ค. 58) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 488,460.91 336,773.95 +45.04% 3,960,470.96 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 97,692.18 84,193.49 +16.03% 80,825.94 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 108.08 108.32 -0.22% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 107.4 107.32 +0.07% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (13 มี.ค. 58) 1.77 1.77 1.78 2.13 2.4 2.73 3.19 3.76 สัปดาห์ก่อนหน้า (6 มี.ค. 58) 1.97 1.97 1.95 2.22 2.39 2.68 3.15 3.71 เปลี่ยนแปลง (basis point) -20 -20 -17 -9 +1 +5 +4 +5