"บริษัทศึกษาเรื่องการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ามาระยะหนึ่งแล้ว จนกระทั่งมั่นใจว่าตลาดในประเทศพร้อมแล้ว สำหรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า บริษัทจึงเลือกรถโดยสารและรถยนต์นั่งไฟฟ้าของบีวายดี เข้ามาบุกตลาดเป็น 2 รุ่นแรก เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพ สมรรถนะและความปลอดภัยสูง"นายโกศล กล่าว
นายโกศล กล่าวว่า บริษัท บีวายดีฯ เป็นผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้าจากจีน ซึ่งการนำเข้ารถยนต์ 2 รุ่นเข้ามาในไทยครั้งนี้ ได้แก่ รถโดยสารไฟฟ้า รุ่น K9 และรถยนต์นั่งไฟฟ้า รุ่น E6 โดยรถโดยสารและรถยนต์นั่งไฟฟ้าจะไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศ และยังช่วยประหยัดพลังงาน ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ อีกทั้งมีค่าซ่อมบำรุงรักษาต่ำกว่ารถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป ขณะที่แบตเตอรี่รถยนต์ หลังจากครบอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 15 ปี สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น ใช้เป็นแบตเตอรี่สำรองต่างๆ
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาด จะนำเสนอในลักษณะโซลูชั่นที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหารถโดยสาร และรถยนต์นั่งไฟฟ้า การสนับสนุนด้านการบริหารการเงิน การบริการหลังการขาย การจัดหาอะไหล่สำรองต่างๆทั้งในระยะเวลารับประกัน และหลังรับประกัน โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเน้นลูกค้าภาครัฐและเอกชน โดยกลุ่มลูกค้ารถโดยสารไฟฟ้าจะเป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย เป็นต้น สำหรับกลุ่มลูกค้ารถยนต์นั่งไฟฟ้าจะเป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทรถเช่า แท็กซี่มิเตอร์ เป็นต้น
ในส่วนของศูนย์บริการ ระยะแรก บริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรจัดตั้งศูนย์บริการกลาง และศูนย์บริการย่อย รวม 5 แห่งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยช่วงแรกตั้งเป้าหมายยอดขายรถโดยสารไฟฟ้าไว้ประมาณ 200 คัน และรถยนต์นั่งไฟฟ้า 200 คัน ซึ่งจากนโยบายสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลในขณะนี้ จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีนี้ และมีความเป็นไปได้ที่จะนำรถรุ่นอื่นๆเข้ามาทำตลาดเพิ่ม รวมถึงในอนาคตมีแผนจะลงทุนก่อตั้งโรงงานประกอบรถโดยสารไฟฟ้าขี้นภายในประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด