ทั้งนี้ ตามเอกสารที่จะยื่นต่อดีเอสไอ ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น NMG มีความผันผวนและเคลื่อนไหวขึ้น-ลงอย่างรุนแรงหลายรอบ หลายครั้ง และมีช่วงห่างของราคาสูงสุด-ต่ำสุดในรอบไม่เดือน ที่กว้างมาก โดยไม่ปรากฎว่ามีข้อมูลพื้นฐานใดๆรองรับ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับความเสียหายจากการเข้าไปลงทุนโดยสุจริต และจากข้อมูลรายงานการซื้อขายหุ้นที่ต้องนำส่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) น่าจะอนุมานได้ว่ามีบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการทำราคาหรือกดราคาหุ้น NMG เพื่อประโยชน์ส่วนตนอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยขอร้องเรียนและเรียกร้องมายังก.ล.ต. ให้ดำเนินการเพื่อหาข้อเท็จจริงและผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยให้ตรวจสอบบัญชีการซื้อขายและโอนหุ้น ในหลักทรัพย์ NMG,NMG-W3 ,NBC และ NBC-W1 ย้อนหลัง 3 ปี ของบุคคลและนิติบุคคลจำนวนรวม 5 ราย ,ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลและนิติบุคคลกลุ่มดังกล่าวว่ามาจากแหล่งเดียวกันหรือไม่ หรือมีผู้จัดการหรือผู้ดำเนินการร่วมกันหรือไม่ ตลอดจนตรวจสอบบริษัทหลักทรัพย์รวมไปถึงเจ้าหน้าที่การตลาดของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ,ตรวจสอบการใช้ข้อมูลภายใน ของบางบุคคลในการซื้อขายหุ้นของบริษัท เป็นต้น
เอกสารระบุอีกว่า ขบวนการนี้มีความสลับซับซ้อนและสร้างความเสียหายอันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของตลาดทุนไทย และผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนมาก โดยอิงจากวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 5 มี.ค.57 ของ NMG มีผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหายกว่า 1.1 หมื่นราย จึงขอให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษด้วย
นอกจากนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อย ยังจะเดินทางไปยื่นหนังสือให้กำลังใจนายสุทธิชัย หยุ่น ในเวลา 13.00 น.วันนี้ เพื่อขอให้ ช่วยแก้ปัญหาเนื่องจากผู้ถือหุ้นนรายย่อยได้รับผลกระทบจากการเหตุการขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตอบคำถามต่อสังคม ถึงกรณีที่ตัดสินใจเลือกนายเสริมสิน สมะลาภา เป็นประธานกรรมการบริหารของ NMG ,ทำไมจึงมองข้ามผู้บริหารเก่าแก่รายอื่นๆที่อยู่ร่วมกับองค์กรมานาน ,ขอให้ตรวจสอบความชัดเจนว่ากลุ่มนายเสริมสิน ถือหุ้นใน NMG กว่า 40% จริงหรือไม่ เป็นต้น