ที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศราว 10% บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้ขยับขึ้นเป็น 20% ภายใน 2 ปีนี้ ซึ่งขณะนี้ยังคงเน้นการส่งออกไปยังประเทศอาเซียน ตลาดหลักยังเป็นกัมพูชา 50% ลาว 20% ที่เหลือเป็น จีน อินเดีย พม่า และฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกันก็คาดว่ายอดขายจากงานโครงการในประเทศจะอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะยอดขายต่างจังหวัดฟื้นตัวดีขึ้น
นายสาธิต คาดกำไรสุทธิในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 289.29 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มแตะ 9% จากปีก่อนที่ทำได้ 6.81% และจะยังรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 25-27% จากมาร์จิ้นการส่งออกดีขึ้น และบริษัทฯเน้นเพิ่มสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มประกอบกับมีการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ
ขณะที่บริษัทได้ตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ราว 100 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่มีอยู่ ปัจจุบันบริษัทมีการเดินเครื่องกำลังการผลิตราว 70-80% และยังไม่มีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในขณะนี้
นอกจากนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการตั้งโรงงานในต่างประเทศ ซึ่งประเทศที่เตรียมเข้าลงทุนได้แก่ กัมพูชา และพม่า ซึ่งจะเข้าไปร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น คาดใช้งบลงทุน 200 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าขนส่ง
"เป้าหมายรายได้ปีนี้มองไว้เติบโต 4% โดยจะมาจากยอดขายในต่างประเทศ และงานโครงการเป็นหลัก ซึ่งงานโครงการก็จะจับกลุ่มลูกค้าบ้านเดี่ยว และตึกสูง ขณะที่เราก็จะมีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆขึ้น เช่น พื้น ผนัง ส่งผลทำให้กำไรสุทธิก็น่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน"นายสาธิต กล่าว