แต่ตลาดบ้านเรายังไม่เห็นปัจจัยขับเคลื่อนที่ชัดเจน นักลงทุนซื้อขายกันเป็นรายตัว และทริกเกอร์ ฟันด์กองใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนมีราว 3 กองก็เข้าซื้อไปบ้างแล้ว น่าจะเหลือเงินซื้อต่ออีกไม่มากที่ แต่แรงซื้อพอร์ตโบรกเกอร์ที่เข้ามา 1.5 พันล้านบาทเป็นความเสี่ยงเพราะมักเล่นเทรดดิ้ง ดังนั้นจึงมองว่าตลาดฯมีโอกาสผันผวน รวมทั้งตลาดบ้านเราปัจจุบันก็ยังไม่ลดความแพง เทรด P/E 18.5 เท่า รวมทั้งปัจจัยการเมืองเริ่มร้อนขึ้น ทั้งการยกร่างรัฐธรรมนูญ และคดีทุจริตจำนำข้าวด้วย สามารถเข้ามารบกวนตลาดฯได้ตลอดเวลา
พร้อมให้แนวรับวันนี้ 1,520-1,514 จุด ส่วนแนวต้าน 1,545 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(20 มี.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,127.65 จุด เพิ่มขึ้น 168.62 จุด(+0.94%), ดัชนี
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 47.76 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 22.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 163.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 10.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.98 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.21 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 7.90 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(20 มี.ค.58)1,529.96 จุด ลดลง 2.17 จุด(-0.14%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 398.15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 มี.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(20 มี.ค.58) ปิดที่ 45.72 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(20 มี.ค.58)ที่ 9.76 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.58/60 แข็งค่าจากแรงเทขายดอลลาร์ มองกรอบ 32.55-32.65
- พาณิชย์ปรับแผนส่งออก มุ่งเจาะตลาดเพื่อนบ้าน หลังประเมินตลาดหลักยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่ ธปท.ประเมินผลกระทบเศรษฐกิจจีนหนักกว่าครั้งก่อน ไทยโดนทั้งทางตรง-ทางอ้อม เป็นปัจจัยสำคัญหั่นเป้าส่งออกปีนี้เหลือ 0.8%
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกรายงานผลกระทบค่าเงินบาทในรายงานนโยบายการเงินฉบับล่าสุดว่า ผลการแข็งค่าของเงินบาทที่รวดเร็วอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปีที่แล้วจากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าซบเซาทำให้ค่าเงินบาทอ่อนกว่าค่าเงินในภูมิภาคนี้ ส่วนดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริงปรับแข็งค่าขึ้น 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดือน ส.ค. 2557
- ธปท.เผยบอร์ดกนง.สั่งติดตามรายได้และความสามารถชำระหนี้กลุ่มครัวเรือนรายได้น้อยและเกษตรกร แนะภาครัฐควรจัดลำดับความสำคัญโครงการ จัดสรรกำลังคนเหมาะโครงการลงทุนเพิ่มขึ้น และลดออกกฎขัดต่อกระบวนการเบิกจ่าย เพื่อแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยไทย ส่วนการชะลอเศรษฐกิจจีนกระทบไทยกลุ่มสินค้าอุปโภคและผลทางอ้อมส่งออกไปยังอาเซียน
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีคงมุมมองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้เป็นรูปแบบ U-Shape และยืนคาดการณ์จีดีพีเดิมที่ 3.5% ชี้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐเป็นฟันเฟืองสำคัญช่วยผลักดัน ไม่งั้นเศรษฐกิจไทยอาจฟุบมากกว่าฟื้น
- เรกูเลเตอร์จ่อปรับค่าผ่านท่อก๊าซปลายปี 58 ชี้มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าแน่นอน ระบุราคาเปลี่ยนแปลง 1 บาท ค่าไฟฟ้าต้องปรับ 0.5-0.6 สตางค์ต่อหน่วย เผยขณะนี้รอเปิดหลักเกณฑ์ให้บุคคลที่ 3 ร่วมใช้ท่อ ปตท. พร้อมเปิดประชาพิจารณ์ทุกภาคส่วน และรอการพิจารณาสร้างท่อก๊าซเส้น 4 และ 5 ที่ชัดเจน ก่อนสรุปเป็นค่าผ่านท่ออัตราใหม่ ประกาศใช้จริงไม่เกินต้นปี 2559
*หุ้นเด่นวันนี้
- NPP-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.นิปปอน แพ็ค(ประเทศไทย)(NPP)เทรดวันนี้วันแรก จำนวน59,931,891 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.80 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งออกวันที่ 10 มีค.58 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 9 มี.ค. 2561 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 9 มี.ค. 2561
- AAV(ฟันันเซีย ไซรัส)แม้ราคาหุ้นปรับขึ้น 33% YTD สวนทางกลุ่ม แต่ยังมี upside 20% จากเป้าหมาย 6.90 บาท น่าสนใจซื้อ นอกจากกำไรปีนี้ turnaround แนวโน้มระยะสั้นยังเป็นบวก 1Q เป็น peak season ของฤดูท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักยังเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น บริษัทเพิ่มเส้นทางบินและขยายกองบิน และราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ สำหรับประเด็นที่บพ.ไทย อาจถูกลดระดับมาตรฐานโดย ICAO ไม่กระทบบริษัทเพราะจีนได้สุ่มตรวจเมื่อต้นปีและไม่พบปัญหาใดกับมาตรฐานของ AAV
- ITD(โกลเบล็ก)ราคาสูงสุด Consensus 10.40 บาท Backlog สูงถึง 3 แสนลบ.รองรับรายได้อีก 5-6 ปี และอยู่ระหว่างเจรจารัฐบาลเมียนมาร์ทำนิคมฯทวายและโรงไฟฟ้า คาดได้ข้อสรุปกลางปี 58 อีกทั้งโครงการเหมืองโปรแตซที่อุดรธานี ช่วยหนุนรายได้-กำไรเติบโตมั่นคง รวมทั้งการประมูลโครงการใหญ่ เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ช่วยเพิ่ม backlog
- CPN(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เพิ่มเป้าเป็น 61 บาท ซื้อกิจการเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เพื่อได้สิทธิการเช่าระยะยาว 41 ปีด้วยมูลค่า 6.4 พันล้านบาท ข้อดีคือราคาที่ซื้อคิดเป็นส่วนลด 16% จากราคาประเมิน และศูนย์การค้าแห่งนี้ได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 47 และมีอัตราการเข้าเช่า(OR)ถึง 98% ประเมินช่วยเพิ่มรายได้ปีนี้ 2% สมมุติฐานดีลสมบูรณ์ได้ 1 มิ.ย.58