KKP ตั้งเป้าปี 58 สินเชื่อบ้านโต 10-15% ตามภาพรวมตลาดอสังหาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 23, 2015 15:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศราวุธ จารุจินดา ประธานสานสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปี 58 เติบโต 10-15% ในอัตราเดียวกับคาดการณ์อัตราการเติบโตของภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ซึ่งปัจุบันธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยราว 4.81 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 26% ของสินเชื่อรวม

ทั้งนี้ การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยจะได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจะส่งผลบวกต่อตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่คาดว่าจะมีการเติบโตมากที่สุด ซึ่งจะมีการขยายตัวที่ 14% หรือมีมูลค่าประมาณ 4 แสนล้านบาท จากอานิสงส์การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่จะส่งผลดีต่อการพัฒนาโครงการตามแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น อีกทั้งหากภาครัฐเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณออกมาอย่างชัดเจน ก็อาจจะทำให้กำลังซื้อฟื้นตัวขึ้นจากที่ชะลอตัวตามผลกระทบปัญหาภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันจะอยู่ในระดับต่ำ

ธนาคารประเมินอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 58 ที่ระดับ 3.8-3.9% สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ขยายตัว 0.7% โดยต้องจับตาภาคการส่งออก ตลาดการเงิน รวมไปถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง และการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังตกต่ำ ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดชะลอตัวลงอย่างมาก เกิดผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดในช่วงที่ผ่านมาที่เผชิญปัญหา Over Supply อยู่แล้ว โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม

"ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบในต่างจ่งหวัดจะมีทิศทางที่ดีกว่าตลาดคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัด เนื่องจากความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของประชาชนในต่างจังหวัดแตกต่างจากประชาชนในกรุงเทพฯที่คอยโดมิเนียมจะตอบโจทย์มากกว่า เนื่องจากมีความสะดวกและใกล้รถไฟฟ้า และต้องการที่อยู่ที่มีความกระทัดรัด ด้านอัตราการปฏิเสธสินเชื่อนั้นอยู่ในระดับ 30-50% ซึ่งยังอยู่ในระดับปกติ"นายศราวุธ กล่าว

ด้านนายปิยศักดิ์ มานะสันต์ อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม KKP กล่าวว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้เพียง 0-3% จากเศรษฐกิจที่ยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดี และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐยังไม่มีความชัดเจนออกมาให้เห็น แต่ยังได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่จะช่วยผลักดันได้ในระดับหนึ่ง โดยเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์สำหรับชาวต่างชาติจะขยายตัวได้ 4% ส่วนตลาดหอพักสำหรับพนักงานโรงงานคาดว่าขยายตัวได้ 2% ซึ่งมองทะเลน่าสนใจคือ นิคมอุตสาหกรรมแถบระยอง ชลบุรี นครปฐม และสมุทรปราการ เป็นต้น สำหรับตลาดอพาร์ตเมนท์เพื่อพนักงานบริษัทจะเติบโตได้ 3% และอพาร์ตเมนท์และหอพักสำหรับนิสิตนักศึกษาจะเติบโตจากปีก่อน

ด้านรายได้จากบริการด้านโรงแรมคาดว่าจะฟื้นตัวได้ 8% ตามนักท่องเที่ยวชาวเอเชียและแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ขณะที่ระยะปานกลางอาจขยายตัวต่อเนื่องจากหลายปัจจัย เช่น นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ที่ทำให้เกิดการติดต่อธุรกิจระหว่างกันมากขึ้น และสายการบินราคาถูกเติบโตดี

"สำหรับตลาดโรงแรงยังมีหลายจังหวัดที่มีศักยภาพ เช่น ภูเก็ต ชลบุรี พังงา ตลาดรองเช่น น่าน ระยอง สมุทรสงคราม ลำพูน สงขลา หนองคาย เป็นต้น"นายปิยศักดิ์ กล่าว

นางจิราภรณ์ ลินมณีโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.ภัทร กล่าวว่า จากการสำรวจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 7 แห่ง ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประกอบด้วย บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท(PS) บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์(LH) บมจ. แสนสิริ(SIRI) บมจ. เอพี(ไทยแลนด์) (AP) บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์(LPN) บมจ.ศุภาลัย(SPALI) และ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์(QH) ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 34% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยจะมาจากการเติบโตของตลาดคอนโดเป็นหลัก ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ประมาณการการเติบโตสูงถึง 48% การเติบโตส่วนใหญ่ยังคงมาจากการมีส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรายใหญ่นั้นมีความคล่องตัวในการปรับตัว และอาจจะมีการปรับลดประมาณการถ้าแนวโน้มตลาดไม่ดีตามความคาดหวัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ