ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้งวดปี 58/59(สิ้นสุด 31 มี.ค.59)จะอยู่ที่ราว 1-1.1 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงงวดปีนี้ เนื่องจากยังมองว่าในช่วง 1-2 ปีนี้กำลังการผลิตยังล้นตลาด แต่เชื่อว่าจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์จะเริ่มขยายตัวในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า เพราะผู้ประกอบการรายใหม่ที่คิดจะเข้ามาก็คงหายไป และกำลังการผลิตจะปรับเข้าสู่สมดุลในที่สุด
นายวิโนต คาดว่าในช่วง 3-4 ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมฟิล์มแบบบางจะเติบโตได้ 7-8% แม้จะต่ำกว่าในอดีตที่เคยเติบโตถึง 8-9% และฟิล์มแบบหนาจะเติบโตได้ราว 5-6% ใกล้เคียงในอดีต ขณะที่บริษัทก็ยังเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
"ในช่วง 1-2 ปีนี้เราก็คงจะยังอยู่ในสถานการณ์กำลังการผลิตล้นตลาดอยู่ แต่เชื่อว่าหลังจากนั้นปริมาณการผลิตจะเริ่มปรับเข้าสู่จุดสมดุลระหว่างปริมาณการผลิต และความต้องการ ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นช่วงที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมา ในขณะเดียวกันหากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องแบบนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทฯออกมาดีอีกด้วย"นายวิโนด กล่าว