"เรามองกำลังซื้อดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/57 จนมาไตรมาส 1/58 ก็ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 2/58 ที่จะถึงนี้ ก็เชื่อว่าช่วงวันหยุด โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ ในเดือนเม.ย.นี้ จะมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นอีก โดยทั้งปีก็น่าจะเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลัก หรือมากกว่า 10% แน่นอน ขณะที่กำไรก็น่าจะดีกว่าปีก่อนด้วย" นายฤทธิ์ กล่าว
สำหรับการลงทุนในปีนี้วางงบลงทุนไว้ 500-600 ล้านบาท เพื่อขยายสาขา 60 สาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แบ่งเป็นสาขาในประเทศ แบรนด์เอ็มเคสุกี้ 20-30 สาขา ยาโยอิ 20-30 สาขา มิยาวากิ 10 สาขา เลอสยาม 2-3 สาขา และเลอ เพอทิท คาเฟ่ 2-3 สาขา
ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ คาดว่าภายในปีนี้จะเปิดสาขาเอ็มเค สุกี้ที่ ประเทศลาวเบื้องต้น 2-3 สาขา จากปัจจุบันมีที่เวียดนามแล้วทั้งหมด 3 สาขา อย่างไรก็ตามก็อยู่ระหว่างศึกษาการขยายสาขาไปใน พม่า และกัมพูชา อีกด้วย
ทั้งนี้บริษัทฯยังคงมองหาการเข้าซื้อกิจการร้านอาหารเพิ่มเติมอีก ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบของกิจการนั้นๆ โดยยังไม่น่าจะได้เห็นในปีนี้
ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัว ลอนดอน สตรีท คอมมูนิตี้ ฟู้ดมอลล์ ต้นแบบแห่งแรกของเอ็มเค กรุ๊ป ตอบโจทย์กระแสความนิยมในการรับประทานอาหารสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยลอนดอน สตรีทมีพื้นที่รวม 1.8 ไร่ ใช้งบทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท
สำหรับในลอนดอน สตรีท จะประกอบด้วย ร้านอาหาร 5 แบรนด์ดัง ได้แก่ ร้านเอ็มเคสุกี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ มิยาซากิ เทปปันยากิ ร้านอาฟารไทยเลอ สยาม และร้านเลอ เพอทิท คาเฟ่ พร้อมเตรียมเปิดบัตรสมาชิก ลิมิเต็ด อิดิชั่น เฉพาะสมาชิกที่มาใช้บริการ มีจำนวนจำกัด เพียงลงทะเบียนรับบัตรที่ลอนดอน สตรีท ในวันที่ 28-29 มีนาคมนี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามบัตรดังกล่าว สามารถใช้รับส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่ม 10% เมื่อชำระเงินสด หรือ 5% สำหรับบัตรเครดิต ที่ร้านอาหารในเครือเอ็มเค กรุ๊ป ทุกสาขาทั่วประเทศ และเมื่อใช้ที่ลอนดอน สตรีทยังมอบสิทธิประโยชน์รวมมูลค่ากว่า 1,000 บาท เช่น คูปองส่วนลดสูงสุดถึง 20% ของร้านอาหารต่างๆในลอนดอน สตรีท พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมายจากสมากชิกเท่านั้น
พร้อมกันนี้บริษัทฯเตรียมสร้างคอมมูคอมมูนิตี้ ฟู้ดมอลล์ เพิ่มในย่านบางนา เพื่อให้ครบทั้ง 4 มุมเมือง คาดว่าภายใน 2-3 ปีน่าจะเห็นความชัดเจนได้ เนื่องด้วยมองกำลังซื้อย่านบางนา ถือว่ามีมูลค่าการจับจ่ายใช้สอยที่สูงมาก จึงมีความน่าสนใจที่จะขยายเพิ่มเติม อีกทั้งบริษัทฯมีที่ดินที่ซื้อเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งงบลงทุนจะอยู่ประมาณ 300-500 ล้านบาทต่อแห่ง