ทั้งนี้ จากนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยบุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริมสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการสนับสนุนเอสเอ็มอี และการส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยของรัฐบาล
แวนการ์ดซุปเปอร์มาร์เก็ต อยู่ภายใต้บริษัท ซีอาร์วี หรือ ไชน่า รีซอสเซส แวนการ์ด ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายซุปเปอร์มาร์เก็ตแวนการ์ด (Vanguard) คอนวีเนียนสโตร์ แวนโก (Vango) และดีพาร์ทเมนต์สโตร์โอเล่ (Ole') ที่มีจุดจำหน่ายสินค้าในฮ่องกงและสาธารณรัฐประชาชนจีนเกือบ 4,000 สาขา
ในเฟสแรกจะมีเอสเอ็มอีไทยเข้าร่วมโครงการประมาณ 80-100 ราย สามารถรองรับสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในไทยคอร์เนอร์ได้มากกว่า 200 รายการ เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมถึงสิ้นเดือนกันยายนศกนี้ โดยเน้นสินค้าในกลุ่มอาหารพร้อมทาน ขนมคบเคี้ยว เครื่องดื่มสมุนไพร ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ฯลฯ คาดว่าจะมีมูลค่าการส่งออกไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท และในอนาคตบริษัทฯ มีโครงการที่จะต่อยอดเพื่อขยายเข้าไปในเครือข่ายของ ซีอาร์วีในประเทศจีนอีกด้วย
“การดำเนินโครงการ “Thai Corner" ในครั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ บมจ. การบินไทย (THAI) ที่เข้ามามีส่วนช่วยให้ล็อกซเล่ย์ ได้มีโอกาสนำสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่ยังไม่เคยทำตลาดในต่างประเทศได้มีโอกาสส่งออกสินค้าและเข้าไปขายในแวนการ์ดซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นเครือซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มุ่งเจาะตลาดในถิ่นที่อยู่อาศัยของคนฮ่องกงเป็นหลัก ซึ่งล็อกซเล่ย์ในฐานะที่เป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศจะดำเนินโครงการในโมเดลเช่นนี้ กับประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพในภูมิภาคอาเซียนต่อไปด้วย" นายสุรพันธ์ กล่าว