โรงไฟฟ้าดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่าง Asia Pacific Energy Ventures Inc. (ฟิลิปปินส์), Sparkling Capital (ฝรั่งเศส) และ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวตั้งอยู่ภายในศูนย์ท่าเรืออุตสาหกรรมและการค้าแห่งเมือง Cadiz จังหวัด Negros Occidental ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลเมือง Cadiz และได้รับการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่จัดทำโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ DENR Of Environmental Compliance Certificate (ECC) แล้ว
สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดนี้จะเข้ามาเสริมแผนการพัฒนาไฟฟ้า สำหรับปี 2015-2017 ของกระทรวงพลังงานในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจัดส่งไปที่ Philippine Visayas Grid ที่ยังขาดไฟฟ้าอยู่ประมาณ 250 เมกกะวัตต์ และมีการคาดการณ์แบบ Conservative ว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นประมาณ 7% ต่อปี หรือประมาณ 100 เมกกะวัตต์ต่อปี โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกจัดส่งผ่านสหกรณ์โรงไฟฟ้าของ จังหวัด Negros Occidental จำนวน 3 แห่ง คือ The North Negros Electric Cooperative, Inc., The Central Negros Electric Cooperative, Inc. (CENECO) และ The VRESCO
พร้อมกันนี้ EARTH ได้ทำสัญญาระยะยาว 25 ปี ในการจำหน่ายถ่านหินให้กับ North Negros Energy Power Corporation (บริษัทในเครือของ North Negros Energy Power Corporation (Affiliate of the APERVI) เพื่อจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าของฟิลิปปินส์ ในปริมาณไม่ต่ำกว่า 20 ล้านตัน
“หากการศึกษาแล้วเสร็จและมีความเป็นไปได้ จะส่งผลให้เป็นไปตาม Vision ของบริษัทที่ได้วางไว้ คือ เป็นผู้ประกอบการถ่านหินอย่างครบวงจร ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำจนถึงอุตสาหกรรมปลายน้ำ ทำให้ EARTH มีความมั่นคงทางธุรกิจถ่านหินมากยิ่งขึ้น จากการดำเนินธุรกิจตามแผน 5 ปี 5 เหมือง 5 ประเทศ ซึ่งในส่วนของการขยายฐานลูกค้าไปใน 5 ประเทศนั้น ขณะนี้ได้บรรลุตามแผนที่วางไว้แล้ว ขณะที่เหมืองแห่งใหม่บริษัทยังดำเนินการจัดหาเหมืองใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งรองรับการเจริญเติบโตของโรงไฟฟ้าถ่านหินในภูมิภาคนี้ โดยเชื่อว่านับจากนี้การดำเนินธุรกิจของ EARTH จะมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น จากการมีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตนเอง และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง รวมถึงโรงไฟฟ้าที่สร้างมูลค่าอย่างต่อเนื่องในระยะยาว "นายขจรพงศ์ กล่าว