ขณะที่ยอดขายไตรมาส 1/57 บริษัททำได้ราว 2.9 พันล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 65% และแนวราบ 35% โดยยอดขายในไตรมาสแรกยังต่ำกว่าเป้าหมายไว้เล็กน้อย แต่เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 23%
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 6 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนีนม 5 พันล้านบาทที่จะทยอยโอนในปีนี้ 50% และโครงการแนวราบอีก 1 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด
นายวงศกรณ์ กล่าวว่า บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 1.75 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้เฉพาะของ PF ไม่รวมรายได้จากการควบรวม บมจ.ไทย พร็อพเพอร์ตี้ (TPROP) และ บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้(GRAND)อีก 2.5 พันล้านบาท
และมั่นใจยอดขายไนปีนี้จะทำได้ตามเป้าที่ 1.8 หมื่นล้านบาท แม้ว่ายอดขายในไตรมาส 1/58 ต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน เพราะยังไม่มีแรงกระตุ้นจากการเบิกจ่ายภาครัฐ จึงส่งผลต่อความมั่นใจในการลงทุนของเอกชน อีกทั้งภาระหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ทำให้กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับราคาผลผลิตทางการเกษตรทรงตัวในระดับต่ำ แต่เชื่อว่าไตรมาส 2/58 สถานการณ์รอบด้านจะดีขึ้น
"เราก็คงหวังว่าไตรมาส 2 นี้จะเห็นการใช้จ่ายภาครัฐในโครงการต่างๆเร็วขึ้น หลังจากปีงบประมาณผ่านไปแล้ว 5 เดือน การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐใช้ไปเพียง 18% จากงบประมาณทั้งหมด หากการเบิกจ่ายภาครัฐออกมามากขึ้น ก็จะทำให้เอกชนมีความมั่นใจและมีการลงทุนตาม ส่วนการท่องเที่ยวตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว ซึ่งยังช่วยค้ำจุนเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง แต่กังวลตัวหน่วงตอนนี้คงเป็นราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ และภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงอยู่ ที่ยังมีผลต่อการชะลอตัวของกำลังซื้อ"นายวงศกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 2/58 ไว้ที่ 4.5 พันล้านบาท โดยจะมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่ม 3 โครงการ มูลค่ารวม 3.75 พันล้านบาท เป็นโครงการแนวราบทั้งหมด หลังจากไตรมาส 1/58 บริษัทเปิดพรีเซลส์โครงการแนวราบไปแล้ว 4 โครงการ จากแผนทั้งปีจะเปิดโครงการใหม่ 24 โครงการ มูลค่ารวม 2.95 หมื่นล้านบาท
ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ของบริษัทอยู่ที่เฉลี่ย 7-8% ทรงตัวจากปีก่อน โดยตลาดระดับล่างราคาขายไม่เกิน 3 ล้านบาทยังมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 10-15% เนื่องจากปัญหาความสามารถในการชำระหนี้และความสามารถในการซื้อที่จำกัด ทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดค่อนข้างมาก ขณะที่ตลาดระดับกลาง-บนอัตราไม่สูงมากนักที่ 5% โดยบริษัทเน้นการเปิดโครงการระดับกลาง-บนมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์
สำหรับงบซื้อที่ดินในปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 2 พันล้านบาท บริษัทได้ใช้วางมัดจำที่ดินที่สนใจในโซนกรุงเทพฯไปแล้ว ส่วนการขายที่ดินแปลงใหญ่ของบริษัท มูลค่า 1 พันล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 2/58 หรือไตรมาส 3/58 ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ที่สนใจซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว