นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PLANB กล่าวว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายได้ปีนี้เติบโต 35% หรือแตะ 2,500-3,000 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ราว 20-25% หรือ 2,000-2,500 ล้านบาท โดยปี 57 มีรายได้ที่ 1,465 ล้านบาท หลังบริษัทได้ร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท ฮัลโล บางกอก ซึ่งได้มีการลงนาม MOU อายุสัญญา 6 ปี
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าควรามร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ PLANB มีเครือข่ายป้ายโฆษณา Outdoor ที่ใหญ่ที่สุดและครบเครื่องที่สุดในไทย คือ สื่อจอ LED ขนาดใหญ่กว่า 200 จอ, สื่อป้าย Billboard ขนาดใหญ่ ทำเลที่ดีที่สุดประเทศกว่า 160 ป้าย, สื่อ Transit (รถปรับอากาศ ขสมก.,เอกชน จำนวน 2,500 คัน จอ LED ในตัวรถจำนวน 650 จอ และรถไฟฟ้าใต้ดิน 816 จุด และสื่อ MALL Media ในศูนย์การค้าชั้นนำ อาทิ EMPORIUM ,EMQUARTIER,CENTEL ทั่วประเทศจำนวนมากกว่า 300 จุด
นายปรินทร์ กล่าวว่า การจับมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อทั้ง 2 บริษัท ทั้งลูกค้าตรง เอเจนซี่และผู้ถือหุ้น เนื่องจากจะทำให้ทั้ง 2 บริษัทมีเครือข่ายพื้นที่สื่อโฆษณานอกบ้านรวมกันมากที่สุดในอุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกบ้าน ซึ่งความร่วมมือทางธุรกิจในรูปแบบการแบ่งปันรายได้ ในครั้งนี้ PLANB จะได้รับส่วนแบ่งรายได้มากกว่า 20% ของยอดขายรวม ซึ่งสามารถเพิ่มศักยภาพการหารายได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
"การจับมือร่วมกันทำธุรกิจในครั้งนี้ กับ ฮัลโล บางกอก เราจะได้รับผลประโยขน์ในแง่ของลูกค้า เอเจนซี่ และผู้ถือหุ้น รวมไปถึงยอดขายที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยฮัลโล บางกอกมีจอ LED บวกกับป้ายโฆษณาทั่วประเทศรวมกัน 206 ป้าย ซึ่งฮัลโล บางกอก มีความต้องการที่จะรุกไปยังสื่อจอ LED เพิ่มขึ้น ขณะที่แพลนบีก็มีความต้องการขยายสื่อป้ายบิลบอร์ดเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความร่วมมือกัน และเป็นลักษณะของการแบ่งปันรายได้ ปัจจุบันฮัลโล บางกอก มีมาร์เก็ตแชร์ในป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ 48% และในจอ LED 36% ส่วนแพลนบี มีมาร์เก็ตแชร์ในป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่เพียง 8% และในจอ LED 55%"
สำหรับการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศนั้น บริษัทคาดว่าจะเห็นความชัดเจนขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเซียในไตรมาส 4/58 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตร นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังสนใจลงทุนในฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และ มาเลเซีย รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน เพื่อมุ่งหวังที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนระยะยาวด้วย
ขณะที่บริษัทฯยังคงงบลงทุนปีนี้ 300-500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนขยายป้ายโฆษณาให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในกทม. และต่างจังหวัดโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ รวมถึงจะเพิ่มสื่อโฆษณากลางแจ้งประเภทดิจิทัล เช่น ตามสถานีรถไฟฟ้า MRT นอกจากนี้ รวมไปถึงการขยายสื่อโฆษณาไปยังต่างประเทศอีกด้วย