นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน PTT) กล่าวว่า ปตท.มีเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย ปริมาณการผลิต 10 ล้านตัน/ปี เป็นถ่านหินคุณภาพสูงเป็นที่ต้องการของตลาด ขณะที่ราคาถ่านหินในปัจจุบันเริ่มนิ่งแล้วและมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่ยังเป็นที่ต้องการในภูมิภาค โดยเฉพาะเอเชีย ทั้งเมียนมาร์ เวียดนาม กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ขณะที่แหล่งถ่านหินของ ปตท.มีกำลังการผลิตเพียงพอ
"แม้ราคาตกตอนนี้แต่เรามีความพร้อม operate ยังมีกำไรและรายได้ที่เหมาะสม"นายสุรงค์ กล่าว
นายวิรัตน์ เอื้อนนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ของ PTT กล่าวว่า ปตท.มีแผนที่จะนำบริษัท พีทีที เอ็นเนอร์ยี่ รีซอร์สเซส จำกัด (PTTER) ซึ่งทำธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย รองรับการขยายงานในอนาคต แต่เป็นสิ่งที่ไม่ได้จำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้ โดยต้องดูจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม
“เดิมเราเคยออกจากสิงคโปร์เพื่อที่จะนำไปจดทะเบียนในอินโดนีเซีย เพราะเรามีแหล่งถ่านหิน 2 แหล่งใหญ่ในอินโดฯ เป็นความตั้งใจเดิม ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้เร่งด่วน ธุรกิจถ่านหินยังไม่หวือหวา รอจังหวะ operation ทำได้ดี ราคาถ่านหินเหมาะสม ตอนนี้ก็มีกำไรแต่ไม่หวือหวารอจังหวะ"นายวิรัตน์ กล่าว
ขณะที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ PTT กล่าวว่า ปตท.ยืนยันที่จะไม่ขายธุรกิจถ่านหินออกไป โดยมองว่าราคาถ่านหินน่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว ขณะที่ PTTER ยังมีโครงการในมืออีกหลายโครงการที่รอการพัฒนาหลังจากราคาถ่านหินขยับตัวขึ้น และยังมองหาโอกาสที่จะซื้อกิจการเพิ่มเติมด้วย