ฝ่ายวิจัย ของบลจ.กรุงไทย รายงานว่า จีนมีการผ่อนคลายนโยบายทางเศรษฐกิจ เพื่อเรียกความเชื่อมั่น โดยธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ1 ปี ลง 0.25% เหลือ5.35% ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินในเศรษฐกิจลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มบริษัทที่มีสัดส่วนการกู้ยืมในระดับที่สูง นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังได้ปรับลดอัตราส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลงเหลือ 19.5% เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องในระบบธนาคารให้มากขึ้น และผ่อนคลายนโยบายการคลังเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าที่จะขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้นเป็น2.3% ของ GDP และคาดว่าในปีนี้ GDP จะขยายตัวประมาณ7%
นอกจากนี้ คาดว่าในปีนี้สภาพคล่องจะไหลเข้ามาในจีนมากขึ้นจากปัญหา Shadow Banking ด้วยการระดมเงินทุนผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือ Wealth Management Product (WMP) ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ เงินที่ได้จากการระดมทุนผ่าน WMP จะนำไปลงทุนในภาคส่วนต่างๆในระบบเศรษฐกิจ และในภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่ดี โดยในปี 2014 ให้ผลตอบแทนถึง52.87% และในปี 2015 YTD (นับตั้งแต่ต้นปีถึง27 มีนาคม 2558) ยังให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 14.11%
Valuation ในหุ้นจีนยังถูก และมีการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน มี P/E ที่ 14.1 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่กำไรของบริษัทจะสามารถเติบโตในระดับที่สูง ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ากำไรต่อหุ้นในปี 2015 จะเติบโตได้23%
กองทุน China นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ และเป็นกองทุนเดียวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ลงทุนในหุ้นจีน A-Share โดยผลตอบแทนของกองทุน China ณ วันที่ 27 มีนาคม 2558 ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 46.40% ยอนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 66.23% และ YTD อยู่ที่ 18.65% โดยเกณฑ์มาตราฐาน AIMC ซึ่งคำนวณจากผลตอบแทนของกองทุน W.I.S.E – CSI 300 China Tracker ย้อนหลัง6 เดือน อยู่ที่ 47.23 % ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 68.87% และ YTD อยู่ที่ 19.26%