จากนั้นทั้ง 2 รายจะเสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เลื่อนจากเดิมที่กำหนดในวันที่ 20 เม.ย.เนื่องจากการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและรายละเอียดด้านเทคนิคของผู้เสนอราคาที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและระยะเวลาในการพิจารณา
"เราขยายเวลาการตรวจสอบเอกสารครั้งแรกจะพิจารณาเสร็จในวันที่ 8 เม.ย.แต่ก็ขยายเวลาไปวันที่ 9-10 เม.ย. ทำให้การประมูลอีอ๊อคชั่นเลื่อนออกไปด้วย โดยมีผู้ผ่านคุณสมบัติอยู่ 2 ราย"นางปราณี กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อนึ่ง โครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ(NGV)จำนวน 489 คันด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (ครั้งที่ 3) ราคากลาง ยังคงอยู่ที่ 3,65,000 บาทต่อคัน
ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า กลุ่มกิจการร่วมค้า JVCC มี CHO ถือหุ้น 50% และ บริษัท ช.ทวีขอนแก่น ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้น 50% เป็น 1 ใน 2 รายที่ผ่านคุณสมบัติและด้านเทคนิคโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ(NGV) ล๊อตแรกจำนวน 489 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และเตรียมเสนอราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 22 เม.ย.
นายสุรเดช อธิบายเหตุผลที่บริษัทกลับเข้ามาร่วมประมูลครั้งนี้ เพราะบริษัทในจีนที่เป็นซัพพลายเออร์ในการจัดหาประกอบรถได้ปรับลดราคาลงมาหลังจากที่ได้มีการเจรจากัน ทำให้บริษัทสามารถประมูลแช่งขันตามราคากลางที่ 3,650,000 บาทต่อคันได้ นอกจากนี้ บริษัทยังคาดหวังจะได้งานจัดหารถล็อตใหม่อีกกว่า 1 พันคัน
"ตอนแรกซัพพลายเออร์จีนไม่ลดราคา ทำให้ราคารภที่จัดหาสูงถึง 4-5 ล้านบาทเราจึงไม่เข้าร่วมประมูล แต่เมื่อได้เจรจาและจีนปรับลดราคาให้ซึ่งเขาอยากได้งานเพราะตอนนี้เศรษฐกิจจีนไม่ค่อยดี ทำให้เราสามารถประมูลได้"นายสุรเดช กล่าว
สำหรับบริษัท บริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัดซึ่งผ่านคุณสมบัติเช่นเดียวกันนั้น นายสุรเดช กล่าวว่า เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะเจ้าของกิจการเป็นคนจึนที่มาดำเนินธุรกิจจำหน่ายรถบัสจีนในไทยนานแล้ว