นอกจากนี้ยังมีสัญญาณเสี่ยงออกมากจากการประกาศงบการเงินในไตรมาส 1/58 โดยกลุ่มแบงก์ออกมาไม่เป็นไปอย่างที่ คาดหวัง อย่างไรก็ตามตลาดคงไม่ได้ลงหนักอะไร เพราะมีตัวหนุน เรื่องของกลุ่มพลังงานอยู่ และกลุ่มพลังงานยังค่อนข้าง laggard เมื่อเทียบกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบตลาดโลก
"คาดว่าโดยภาพรวมคงขึ้นลำบาก แต่ก็คงไม่ลงแรงอะไร กลยุทธ์ตอนนี้ ซีรียส์ M (S50M15) ใกล้เคียง SET50 พอ สมควร ถ้าเป็นอย่างนี้ก็เน้นเปิดสถานะ short จะได้เปรียบที่สุด ให้เน้นเปิด short ที่ 1,042 จุด และขายทำกำไรที่ระดับ 1,030 จุด"
ให้แนวต้านไว้ที่ 1,042 จุด และ แนวรับที่ 1,030 จุด
ส่วนราคาทองคำ ยังเน้นให้เปิดสถานะ long เพราะค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนตัวในช่วงระยะสั้น ส่วนการประกาศตัว เลขจีดีพีของสหรัฐคาดว่าผลจะดีอยู่แล้วก็ผ่อนคลายที่เฟดไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ว แต่ถ้าผลออกมาไม่ดี ก็ยิ่งดีต่อราคาทองคำ
ให้แนวต้านที่ระดับราคา 1,215 เหรียญ/ออนซ์ แนวรับที่ 1,198 เหรียญ/ออนซ์
ด้านบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด มีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,218- 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อ ตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,185-1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุด ซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,039.53 จุด ลดลง 4.20 จุด, -0.40%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 145,850 893,748 Total Futures 144,941 884,381 SET50 Index 61,635 218,244 Sector Index - - Single Stock 75,008 638,137 Precious Metal 4,926 19,736 -GF10 4,430 15,807 -GF50 496 3,929 Curency 3,233 8,016 Energy 139 248 Interest Rate - - Total Options 909 9,367 Call 375 4,088 Put 534 5,279 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -37,153 +6,332 +30,821 Options -46 +1 +45