อีกทั้งธนาคารให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ NPL ของธนาคารในงบการเงินรวมไตรมาส 1/58 ปรับตัวลดลงมา 2,020 ล้านบาท หรือ 6.17% จากสิ้นปี 57 และ NPL Ratio ลดลงมาอยู่ที่ 3.95% จากในปีที่แล้ว 4.55% ส่งผลให้ Coverage Ratio ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 89.76% แต่หากดูงบเฉพาะของธนาคาร จะเห็นว่า NPLRatio อยู่ที่ 2.98 เปอร์เซ็นต์ และ Coverage Ratio ก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 93.33% สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งมากขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร อีกทั้ง ธนาคารและบริษัทย่อยยังสามารถรักษาระดับผลกำไรในไตรมาสนี้ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน
"ดอกเบี้ยนโยบายที่เพิ่งปรับลดลง จะเป็นประโยชน์กับธนาคารในไตรมาสถัดๆไป เราน่าจะได้เห็นภาพ Spread ที่กว้างขึ้น ถึงแม้ว่า Volume ของสินเชื่อจะหดตัวลงไปบ้างเนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อยังมีปริมาณการชำระคืนที่สูงกว่าปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ แต่ธนาคารก็จะยังคงเน้นเรื่องการลด NPL ลง และเพิ่ม Coverage Ratio ให้มากขึ้น และในปีนี้ในงบเฉพาะกิจการของธนาคารคาดว่า NPL จะอยู่ต่ำกว่า 3 เปอร์เซ็นต์และ Coverage Ratio อยู่ที่ระดับ 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ก็จะเพิ่มขึ้นและชดเชยรายได้ดอกเบี้ยที่หายไปจากปริมาณสินเชื่อที่หดลง จากการใช้ประโยชน์จากระบบเทคโนโลยีต่างๆที่เราได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ด้านค่าใช้จ่ายก็ยังควบคุมต่อไป Credit Cost น่าจะอยู่ราวๆ 0.85 เปอร์เซ็นต์"นายสมเจตน์กล่าว